สำหรับโรคฮอตฮิตในบ้านเราและระบาดอย่างหนักในช่วงหน้าฝน โดยมียุงตัวเล็กๆ เป็นพาหะ คงหนีไม่พ้นไข้เลือดออก และในปัจจุบันอุณหภูมิโลกสูงขึ้น ยิ่งเหมาะอย่างมากกับการขยายเผ่าพันธุ์ แถมครั้งนี้เจ้ายุงก็ไม่ได้มาเล่นๆ เพราะจัดเต็มความดุแบบสุดขีดด้วยเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า เดงกี่ จนเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2562 กระทรวงสาธารณสุขได้สรุปยอดอัตราการป่วยและเสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออก พบว่ามีผู้ป่วยมากถึง 26,430 รายและเสียชีวิต 41 ราย แถมมีทีท่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย แบบนี้คงจะไม่ได้การ เอาเป็นว่า...เรามาทำความรู้จักกับเจ้าภัยร้ายตัวจิ๋วกันหน่อยดีกว่า
สาเหตุไข้เลือดออก
โรคนี้เกิดจากยุงลายตัวเมีย ที่ออกมาดูดกินเลือดจากคนหรือสัตว์ เพื่อนำไปใช้ในการวางไข่ เมื่อแจ๊คพอตไปเจอผู้ป่วยที่มีเชื้อไวรัสเดงกี่อยู่แล้ว มันจะเอาเชื้อนี้แอบเข้าไปเก็บไว้ที่กระเพาะอาหารและต่อมน้ำลายด้วย โดยมีระยะฟักตัวประมาณ 8-12 วัน จากนั้นเมื่อยุงไปกัดคนอื่นๆ ต่อ เชื้อไวรัสก็จะเข้าสู่กระแสเลือดของผู้ที่โดนกัด ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกตามมา
อาการไข้เลือดออก
ส่วนใหญ่ไข้เลือดออกมักจะพบมากในเด็กและวัยทำงาน ส่วนอาการไม่สามารถจำเพาะออกมาได้อย่างชัดเจน เช่น ไข้เลือดออกในเด็ก อาจจะแค่ตัวร้อน เป็นไข้และมีผื่นขึ้น ส่วนผู้ใหญ่ก็อาจจะมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดตามตัว ปวดกระบอกตา ปวดกล้ามเนื้อ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อาการเฉพาะเจาะจงที่เราสามารถสังเกตได้มีดังต่อไปนี้
1. มีไข้สูงเฉียบพลันเกิน 38 องศาเซลเซียส ประมาณ 2-7 วัน
2. คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร
3. หน้าแดง อาจพบจ้ำเลือดหรือตุ่มไข้เลือดออกสีแดงเล็กๆ ลักษณะเหมือนหัดขึ้นตามผิวหนัง รวมถึงมีเลือดออกบริเวณอื่น เช่น เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน ปัสสาวะ อุจจาระมีเลือดปน
4. ปวดท้องอย่างรุนแรง กดเจ็บชายโครงด้านขวา เนื่องจากตับโตกว่าปกติ
5. ในอาการที่รุนแรงมาก หลังจากมีไข้มาแล้วหลายวัน ผู้ป่วยอาจเกิดภาวะการไหลเวียนโลหิตล้มเหลวหรือภาวะช็อก และเข้าสู่ระยะที่เรียกว่า กลุ่มอาการไข้เลือดออกช็อก (dengue shock syndrome) โดยจะมีอาการกระสับกระส่าย ปลายมือปลายเท้าเย็น ปัสสาวะน้อยลง ไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว ความดันโลหิตลดต่ำ วัดชีพจรไม่ได้
การรักษาไข้เลือดออก
ถือเป็นเรื่องน่าเศร้ามากเพราะตอนนี้ทั่วโลกยังไม่สามารถผลิตยาต้านเชื้อไวรัสสำหรับโรคไข้เลือดออกได้ ดังนั้น วิธีการรักษาจึงเป็นไปตามอาการ เพื่อประคับประคองให้ร่างกายของผู้ป่วยกลับเข้าสู่ภาวะปกติเร็วที่สุด สำหรับใครที่เป็นแบบไม่รุนแรง โรคไข้เลือดออกก็จะหายได้เองภายใน 2-7 วัน ส่วนการดูแลเบื้องต้น ผู้ป่วยควรดื่มน้ำผลไม้หรือเกลือแร่เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ เช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นเพื่อลดไข้เป็นระยะๆ รับประทานอาหารอ่อน งดเครื่องดื่มที่มีสีคล้ายเลือด เพื่อไม่ให้การวินิจฉัยคลาดเคลื่อน อาจกินยาลดไข้ เช่น ยาพาราเซทตามอลได้ แต่ในปริมาณที่แพทย์สั่งเท่านั้น ห้ามกินยาแอสไพรินและยากลุ่ม NSAID เด็ดขาด เพราะอาจทำให้เลือดออกง่ายและมากขึ้น แต่ถ้าพบผู้ป่วยที่อาเจียนมาก ปวดท้องมาก ไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว ตัวเย็นผิดปกติ ไม่ปัสสาวะนานกว่า 6 ชั่วโมง ควรรีบมาพบแพทย์โดยด่วน
การป้องกันโรคไข้เลือดออก
1. ตัดวงจรการแพร่พันธุ์ของยุง ซึ่งถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด เช่น อย่าให้ภายในบ้านเกิดน้ำขังตามที่ต่างๆ หาฝาปิดภาชนะ และถ้าบริเวณไหนจำเป็นจะต้องมีน้ำ ควรเลี้ยงปลาเพื่อกินลูกน้ำ หรือใส่ทรายอะเบท ปูนแดง หรือลูกมะกรูดลงไป เพื่อฆ่าลูกน้ำ
2. ระมัดระวังไม่ให้ยุงกัด และทายากันยุง
3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
4. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ผู้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกส่วนใหญ่ มักคิดว่าตัวเองกำลังเป็นไข้หวัด เพราะถ้าดูจากอาการจะมีหลายๆ ข้อที่คล้ายกันมาก จนทำให้เกิดการละเลยและเพิกเฉยที่จะไปหาหมอเพื่อเช็คร่างกายอย่างละเอียด ดังนั้นเพื่อให้ทุกชีวิตห่างไกลจากโรคร้าย เราจึงต้องดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ รวมถึงไม่มองข้ามการทำประกันสุขภาพ เพราะนอกจากจะสามารถเข้ารับการตรวจในทุกครั้งที่มีอาการแล้ว เมื่อถึงเวลาป่วยจริงๆ ยังรักษาได้ทันท่วงทีอีกด้วย
แบบประกันชีวิตที่แนะนำ

ประกันคุ้มครองชีวิตและโรคร้ายแรงตลอดชีพ | iShield
โรคร้าย ควบคุมไม่ได้ แต่ “ความสุข” คุณปกป้องได้
iShield ยืดเวลาแห่งความสุข ไม่หยุดไปกับโรคร้าย ทางเลือกใหม่ที่จะช่วยปกป้องความสุขของคุณและครอบครัวจากภัยโรคร้ายแรง วางแผนรับมือตั้งแต่วันนี้ อย่าปล่อยให้โรคร้ายแรงทำลายชีวิตคุณ เพราะโรคร้ายเกิดขึ้นได้แบบไม่คาดฝัน โดยที่คุณอาจไม่รู้ตัว และใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด หากไม่มีการเตรียมพร้อมรับมือใด ๆ อาจทำให้ความสุขทั้งหมดของชีวิตต้องหยุดลง
- ชำระเบี้ยสั้น เบี้ยประกันคงที่ตลอดสัญญา
- 70 โรคร้ายแรงที่ไอชิลด์คุ้มครองทั้งระยะเริ่มต้นและระยะรุนแรง
- เบี้ยประกันภัยในส่วนคุ้มครองชีวิตสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ (ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร)
สิทธิประโยชน์

ประกันโรคร้ายแรง | iCare
นิยามใหม่กับแผนประกันโรคร้ายแรง
ที่ให้ความคุ้มครองเต็มเหนี่ยวถึง 100 อาการ ครอบคลุมทุกระยะโรคร้าย และให้คุณเคลมได้หลายครั้งรวมสูงสุดถึง 6 เท่าของจำนวนเงินเอาประกันภัย แถมยังมั่นใจได้ว่าความคุ้มครองของคุณจะไม่สูญหายแม้ยามเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง
- คุ้มครอง 100 โรค ครอบคลุมทุกระยะ
- จะเคลมหลายครั้งก็ยังไหว เพราะความคุ้มครองเราให้สูงสุดถึง 5 เท่า
- เพิ่มความคุ้มครองอีก 10 โรคสำหรับสมาชิกตัวน้อย (รวมคุ้มครองสูงสุด 6 เท่าสำหรับเด็กอายุ 1 เดือน - 18 ปี)