ไม่มีข้อมูล

ค้นหาในทุกหมวด
*โปรดระบุคำค้นหา
17 มีนาคม 2566

4 วิธีลดต้นแขน ให้กระชับ เรียว เล็ก ได้ผลจริง

เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนต้องเคยอยากใส่เสื้อแขนกุดอวดแขนสวย ๆ แต่ก็ไม่มีความมั่นใจกับไซส์ต้นแขนของตัวเอง ไม่ต้องกังวลไป วันนี้เรามี 4 วิธีการลดต้นแขนที่ทำง่ายแต่ได้ผลจริงมาฝากกัน

 

1. ปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหาร

                  ศัตรูตัวร้ายที่ทำให้ร่างกายสะสมไขมันส่วนเกินก็คืออาหารจำพวกไขมันเลว แป้งและน้ำตาล ดังนั้นการค่อย ๆ ลดหรืองดอาหารจำพวกนี้ได้ และหันมารับประทานอาหารมีประโยชน์และสารอาหารครบถ้วนในสัดส่วนที่เหมาะสมกับร่างกายก็จะช่วยให้ขนาดของต้นแขนค่อย ๆ ลดลง แม้วิธีนี้จะใช้เวลานานซักหน่อย แต่รับรองว่าได้ผลอย่างแน่นอน

 

2. ใช้ตัวช่วย อย่างการสวมปลอกกระชับต้นแขน

                  การสวมปลอกกระชับต้นแขนที่ทำจากเนื้อผ้าชนิดพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อช่วยยกกระชับต้นแขนโดยเฉพาะจะช่วยรักษาขนาดต้นแขนให้อยู่ในขนาดคงที่ แม้จะไม่ได้ช่วยให้แขนมีขนาดเล็กลงโดยตรง แต่ก็ช่วยบีบรัดไม่ให้แขนขยายใหญ่ขึ้น แนะนำว่าควรสวมปลอกกระชับต้นแขนควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมชนิดอื่น ๆ ร่วมด้วย ก็จะช่วยลดปัญหาแขนย้วยได้อย่างมาก

 

3. สลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting

                  CoolSculpting เป็นเทคโนโลยีที่นำเอาความเย็นในระดับอุณหภูมิติดลบมาใช้ทำลายเซลล์ไขมัน ทำให้เซลล์ไขมันที่เป็นต้นเหตุของไขมันส่วนเกินช่วงต้นแขนตายลงโดยที่ไม่สร้างความเจ็บปวด ใช้เวลาเพียง 35-45 นาทีก็สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินไปได้ถึง 20-30% และยังสามารถทำซ้ำได้จนกว่าไขมันส่วนนั้นจะเล็กลงและไม่ทำให้เกิดอันตรายอีกด้วย

 

4. ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายคือวิธีการช่วยลดและรักษาขนาดต้นแขนให้เรียวสวยและแข็งแรงได้อย่างยั่งยืนที่สุด ลองมาดูท่าออกกำลังกายที่ช่วยลดขนาดต้นแขนได้อย่างมีประสิทธิภาพกัน

·       Push-up (ท่าวิดพื้น)

o   ท่าวิดพื้นเริ่มต้นด้วยการคุกเข่าลงบนพื้นหรือเสื่อสำหรับออกกำลังกาย จากนั้นวางมือลงบนพื้นโดยปลายนิ้วชี้ไปด้านหน้าและกะระยะความกว้างเท่าหัวไหล่ 

o   จากนั้นใช้มือค้ำร่างกายและยืดเท้าออกไปด้านหลัง พยายามจัดระเบียบลำตัว หลัง ก้น และขาให้อยู่ในแนวเดียวกัน ซึ่งท่าเตรียมวิดพื้นนี้หลายคนอาจรู้กันในชื่อท่าแพลงก์ (Prank)

o   เมื่อจัดร่างกายเรียบร้อยแล้ว ค่อย ๆ ลดลำตัวให้ต่ำลงด้วยการงอศอกออกไปด้านข้าง จนกระทั่งหน้าอกห่างกับพื้นราว 5 เซนติเมตร จากนั้นดันตัวขึ้นกลับสู่ท่าแพลงก์

o   ทำซ้ำในลักษณะเดียวกันนี้ 10-15 ครั้ง

o   หากยังไม่สามารถ Push up แบบนี้ได้ สามารถฝึก Push up แบบชันเข่าหรือ Push up กับกำแพงเพื่อค่อย ๆ สร้างความแข็งแรงก็ได้เช่นกัน

·       Tricep Bench Dips (ท่ากระชับหลังแขนโดยใช้เก้าอี้)

o   ท่านี้เริ่มต้นด้วยการนั่งบนขอบด้านหน้าของเก้าอี้ ตั้งเข่าเป็นมุมฉาก ฝ่าเท้าแนบกับพื้นและชี้ไปด้านหน้า จากนั้นใช้มือจับบริเวณขอบเก้าอี้ข้างลำตัว โดยหันหลังมือไปด้านหน้าทางเดียวกับที่ปลายเท้าชี้ออกไป

o   เมื่อนั่งเรียบร้อยแล้ว ให้เลื่อนตัวออกมาด้านหน้าเก้าอี้ โดยใช้ฝ่ามือค้ำน้ำหนักตัวไว้และลดลำตัวลงเป็นแนวตั้ง เมื่อลดลงไปจนข้อศอกมีลักษณะเป็นมุมฉาก ให้ออกแรงตัวขึ้นมาในลักษณะเดิม ขณะดันตัวขึ้น ควรออกแรงบริเวณกล้ามเนื้อต้นแขนด้านหลังโดยใช้เท้าในการพยุงเท่านั้น

o   ทำซ้ำในลักษณะเดียวกันนี้ 10-15 ครั้ง

·       Tricep Kickbacks (ท่ากระชับต้นแขนด้านหลัง)

o   เริ่มต้นจากการคุกเข่าข้างขวาลงกับพื้น โดยชันเข่าซ้ายขึ้น มือถือดัมเบลหรือขวดน้ำขนาดประมาณครึ่งลิตรไว้บริเวณเอว (500–600 มิลลิลิตร)

o   จากนั้นยืดแขนขวาออก เกร็งกล้ามเนื้อต้นแขน และค่อย ๆ เคลื่อนแขนไปด้านหลัง ลักษณะคล้ายการแกว่งแขน แต่เป็นการใช้กล้ามเนื้อต้นแขนในการเคลื่อนไหวแทนแรงเหวี่ยง

o   เมื่อยืดแขนออกไปด้านหลังจนสุดแขน จึงค่อย ๆ ดึงแขนกลับมาในลักษณะเดิม

o   ทำซ้ำจนครบ 10-15 ครั้ง และสลับไปทำแขนด้านซ้าย โดยสลับขาซ้ายมาคุกเข่าแทน

·       Hammer Curls with Dumbbells (ท่าฝึกกล้ามเนื้อหน้าแขน)

o   เริ่มต้นด้วยการยืน แยกเท้าทั้งสองข้างกว้างเท่ากับหัวไหล่ งอเข่าลงเล็กน้อยหรือย่อตัวลงไปคล้ายท่านั่ง

o   จับดัมเบลไว้ข้างลำตัวทั้งสองข้างในลักษณะที่ฝ่ามือหันเข้าหากัน จากนั้นเกร็งต้นแขนด้านบนของแขนขวา ล็อกข้อศอกและต้นแขนไว้ จากนั้นใช้ท่อนแขนด้านล่างยกดัมเบลขึ้นมาด้านหน้าจนดัมเบลอยู่ระดับหัวไหล่และกลับไปท่าเริ่มต้น

o   ทำซ้ำจนครบ 10-15 ครั้งในลักษณะเดียวกัน และสลับไปทำแขนด้านซ้าย หรืออาจทำสลับข้างในรอบเดียวกันก็ได้

·       Cardio (คาร์ดิโอ)

คือ การออกกำลังกายที่กระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจและระบบไหลเวียนเลือดภายในร่างกาย ช่วยในการเผาผลาญพลังงานส่วนเกินและไขมันที่สะสมอยู่ตามต้นแขนภายหรือร่างกายส่วนอื่น ซึ่งมีหลายรูปแบบ เช่น การวิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ กระโดดเชือก เป็นต้น ซึ่งควรใช้เวลาในการทำคาร์ดิโออย่างน้อย 20-40 นาทีต่อวันเพื่อให้เกิดกระบวนการดึงพลังงานส่วนเกินมาใช้ได้อย่างเหมาะสม

 

วิธีการที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายและให้ผลลัพธ์ชัดเจน หากนำไปปรับใช้เป็นประจำจนเกิดเป็นนิสัยใหม่ ไม่เพียงแต่ต้นแขนที่จะเรียวเล็กลงเท่านั้น แต่รูปร่างทั้งหมดก็จะกระชับได้สัดส่วนและได้สุขภาพแข็งแรงมาเป็นของแถมด้วย สำหรับลูกค้ากรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิต ที่สนใจในการดูแลสุขภาพสามารถอ่านบทความด้านสุขภาพอื่น ๆ ได้ที่ https://www.krungthai-axa.co.th/th/health-advisories

แหล่งที่มาของข้อมูล

·       เว็บไซต์พบแพทย์
http://bit.ly/3UhE6Ix

·       APEX Medical Center
http://bit.ly/3htLTV4
http://bit.ly/3UoQ6YV

บทความสุขภาพที่สำคัญ