ไม่มีข้อมูล

ค้นหาในทุกหมวด
*โปรดระบุคำค้นหา
20 พฤษภาคม 2566

ทำความรู้จัก “เทมเป้” อาหารเพื่อสุขภาพยอดนิยม

เชื่อว่าเมื่อพูดถึงอาหารเพื่อสุขภาพ สิ่งที่หลายคนจะนึกถึงหรือได้ยินบ่อย ๆ ในช่วงไม่นานมานี้คือ “เทมเป้” อาหารสุขภาพยอดฮิตที่ได้โปรตีนเน้น ๆ สำหรับใครที่อาจจะมีข้อสงสัยว่าอาหารชนิดนี้คืออะไร วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกัน

 

เทมเป้ คืออะไร

          เทมเป้ (Tempeh) คืออาหารจากประเทศอินโดนีเซียที่กำลังได้รับนิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพ ซึ่งได้มาจากการหมักจากถั่วเหลือง หรือถั่วลิสง ด้วยเชื้อราสายพันธุ์ Rhizopus Oligosporus จนได้รส กลิ่น และเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ ที่สำคัญเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ โดยเฉพาะโปรตีนปริมาณสูง จึงส่งให้เทมเป้เป็นอีกแหล่งโปรตีนทางเลือกสำหรับผู้ที่งดเว้นเนื้อสัตว์ หรือรับประทานอาหารมังสวิรัติ อาหารเจ อาหารวีแกน สำหรับเทมเป้ที่วางขายทั่วไปมีลักษณะเป็นก้อนสี่เหลี่ยมคล้ายเต้าหู้ แต่มีเนื้อสัมผัสที่หนึบกว่า สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู

 

วิธีการทำเทมเป้

            ขั้นตอนการทำเทมเป้นั้น เริ่มจากการนำถั่วเหลืองหรือถั่วลิสง มาแช่น้ำประมาณ 16-18 ชั่วโมง เพื่อให้เมล็ดถั่วให้ดูดซับน้ำเต็มที่ จากนั้นลอกเปลือกถั่วออกออกแล้วนำไปต้มหรือนึ่งให้สุก หลังจากนั้นก็วางทิ้งไว้ให้เย็นลงจนมีอุณหภูมิประมาณ 30-35 องศาเซลเซียส แล้วใส่หัวเชื้อ Rhizopus Oligosporus พร้อมกับคลุกเคล้าให้ทั่ว เมื่อเสร็จแล้วห่อด้วยใบตองหรือถุงพลาสติก เจาะรูเพื่อเชื้อราเจริญเติบโตและนำไปบ่มที่อุณหภูมิประมาณ 30-32 องศาเซลเซียส ประมาณ 2 วันจะเกิดเป็นเส้นใยสีขาวปกคลุมถั่วทั้งหมด

                  นอกจากนี้เรายังสามารถนำเทมเป้มาประกอบอาหารเป็นเมนูอื่น ๆ ได้อีกด้วย อย่างเช่น หั่นสไลด์บาง ๆ แล้วนำเข้าหม้อทอดไร้น้ำมัน ก็จะเป็นแผ่นกรอบมาทำเป็นขนมทานเล่น ใครที่อยากให้มีรสชาติเพิ่มเติมก็สามารถปรุงรสใส่เกลือ พริกไทย หรือผงปาปริก้าก็ได้เช่นกัน รวมถึงสามารถนำไปทำเมนูผัดต่าง ๆ ได้ อย่างเช่น ผัดกะเพรา ผัดพริกเกลือ เป็นต้น สำหรับใครที่ไม่ใช่สายเข้าครัวทำอาหาร ก็สามารถหาซื้อเทมเป้ทั้งแบบแปรรูปและไม่แปรรูปได้ที่ร้านค้าที่ขายอาหารเพื่อสุขภาพหรือช่องทางขายสินค้าออนไลน์อย่าง E- Commerce ก็ได้เช่นกัน

 

คุณค่าทางสารอาหารของเทมเป้

-           มีโปรตีนสูง เมื่อเทียบกับเต้าหู้ในปริมาณเท่ากัน เทมเป้ให้โปรตีนในปริมาณที่สูงกว่า โดยเทมเป้ 84 กรัมมีโปรตีนสูงถึง 15 กรัม ในขณะที่เต้าหู้ 84 กรัมมีโปรตีนเพียง 6 กรัมเท่านั้น

-           มีส่วนประกอบของสารไอโซฟลาโวนที่ช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอล

-           มีกรดอะมิโนจำเป็น 9 ชนิดที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้

-           เป็นแหล่งแคลเซียมชั้นดีสำหรับคนที่ไม่ดื่มนมวัว เพราะในเทมเป้ 1 ถ้วยตวงหรือ 166 กรัม มีปริมาณโปรตีนประมาณ 2 ใน 3 ของนมหนึ่งแก้ว (244 มิลลิลิตร)

-           นอกจากนี้ยังมีวิตามินและแร่ธาตุอื่น ๆ อีก เช่น วิตามินบี วิตามินบี 12 แคลเซียม ธาตุเหล็ก ทองแดง สังกะสี แมงกานีส และฟอสฟอรัส เป็นต้น

 

สารพัดประโยชน์ของเทมเป้   

-           ส่งผลดีต่อหัวใจ 

-           ไม่มีคอเลสเตอรอล

-           ช่วยควบคุมน้ำหนัก

-           ช่วยลดความดันโลหิต

-           ช่วยรักษาสมดุลอินซูลิน

-           ช่วยลดอาการปวดประจำเดือน

-           ลดอาการอักเสบ

-           เสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร

 

ข้อควรระวังในการรับประทานเทมเป้

              แม้เทมเป้จะจัดอยู่ในกลุ่มอาหารเพื่อการดูแลสุขภาพ แต่ก็มีบางคนที่ได้รับผลเสียจากการรับประทานเทมเป้ เช่น กลุ่มคนที่แพ้ถั่วเหลือง หรือถั่วลิสง รับประทานแล้วอาจเกิดอาการคัน เป็นผื่น ใบหน้าหรือลำคอบวม หายใจลำบาก คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องร่วง หรือในบางกรณีผู้ที่แพ้อย่างรุนแรงอาจเกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้

                  กลุ่มคนที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ เทมเป้ที่มีสารกอยโทรเจน (Goitrogens) ที่อาจยับยั้งการสังเคราะห์ไทรอยด์ฮอร์โมน และลดประสิทธิภาพการดูดซึมยารักษาไทรอยด์ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว หรืออยู่ในข้อจำกัดทางด้านสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อให้การรับประทานเทมเป้สามารถสร้างประโยชน์ แทนที่จะเกิดโทษกับร่างกาย

 

เพราะเทมเป้อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย เป็นแหล่งโปรตีนและแคลเซียมชั้นดี จึงถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนที่รักสุขภาพ รวมถึงคนที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์อีกด้วย สำหรับลูกค้ากรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิต ที่สนใจในการดูแลสุขภาพสามารถอ่านบทความด้านสุขภาพอื่น ๆ ได้ที่ https://www.krungthai-axa.co.th/th/health-advisories

 

แหล่งที่มาของข้อมูล

·       เว็บไซต์พบแพทย์
https://bit.ly/3Gi2Zht

·       Food Network Solution
https://bit.ly/3Gjindr

·       WebMD
https://www.webmd.com/food-recipes/tempeh-health-benefits

·       MedThai
https://medthai.com/amino-acid/

·       US Department of Agriculture
https://fdc.nal.usda.gov/fdc-app.html#/food-details/174272/nutrients

บทความสุขภาพที่สำคัญ