ว่าที่คุณแม่มือใหม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่มักจะมีความกังวลไม่น้อย เพราะจะเป็นช่วงที่มีความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายอยู่ตลอดเวลา รวมถึงมีสิ่งที่ต้องคอยสังเกตความผิดปกติ เราจึงรวบรวมอาการยอดฮิตต่าง ๆ ของคุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมทั้งวิธีการสังเกตว่าเป็นอาการปกติหรือไม่ และหากมีความปกติ ควรจะมีการปฏิบัติตนอย่างไร ดังนี้

อาการแพ้ท้อง

มักจะเกิดขึ้นในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ เนื่องจากมีระดับฮอร์โมนที่สูงขึ้น จนอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ และอ่อนเพลีย อาการเหล่านี้จะหายไปเองตามธรรมชาติ เหล่าว่าที่คุณแม่สามารถรับมือโดยการแบ่งมื้ออาหารเป็นมื้อเล็ก ๆ งดอาหารที่ย่อยยาก และกินอาหารแห้ง ๆ เช่น แคร็กเกอร์ เป็นต้น แต่ถ้าหากมีคลื่นไส้ อาเจียนมากเกินไปจนน้ำหนักลด เบื่ออาหาร ใจสั่น ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินและรักษาอาการต่อไป

มีเลือดออกทางช่องคลอด

เป็นอาการที่ไม่ปกติ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบสาเหตุของอาการเลือดออกให้เร็วที่สุด โดยหากมีเลือดออกร่วมกับปวดท้องในไตรมาสแรก อาจเกิดจากการแท้งหรือมีภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์ แต่หากเป็นช่วงท้ายของการตั้งครรภ์ อาจสันนิษฐานได้ถึงการคลอดก่อนกำหนด

อาการตัวบวม

หากเป็นอาการเท้าบวมขึ้นเล็กน้อย ยังถือว่าเป็นเรื่องปกติ อาจเกิดจากการเดินหรือยืนนาน ๆ แต่ถ้าหากมีอาการบวมมากผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า ข้อมือ ข้อเท้า กดแล้วบุ๋มลึกลงไป รวมถึงมีความดันโลหิตสูงมากกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอทและปัสสาวะเป็นฟอง แสดงว่าอาจเป็นสัญญาณอันตรายจากภาวะครรภ์เป็นพิษ หรือ ภาวะความดันโลหิตสูงระหว่างตั้งครรภ์ ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้เร็วที่สุด

อาการดิ้นของลูกในครรภ์ไม่ปกติ

คุณแม่ตั้งครรภ์จะเริ่มรู้สึกถึงการดิ้นของลูกเมื่อครรภ์อายุประมาณ 20 สัปดาห์ และเมื่อถึงอายุครรภ์ 28 สัปดาห์ขึ้นไป คุณแม่ตั้งครรภ์ควรสังเกตจำนวนการดิ้นของลูกในแต่ละวัน ในหนึ่งวันทารกจะดิ้นอยู่ที่ประมาณ 200 ครั้ง โดยใช้วิธีการนับจำนวนการดิ้นต่อเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง หากภายใน 4 ชั่วโมง มีการดิ้นเกิน 10 ครั้ง ถือว่าปกติ แต่ถ้าหากดิ้นน้อยกว่านั้น ควรเข้าพบแพทย์เพื่อประเมินอาการโดยด่วน

ตกขาว

มีโอกาสเกิดขึ้นได้เนื่องจากฮอร์โมนในระหว่างตั้งครรภ์ กระตุ้นให้ร่างกายสร้างมูกในช่องคลอดมากขึ้น หากเป็นสีขาวขุ่น ไม่มีกลิ่นและอาการคัน ถือเป็นอาการปกติ แต่ถ้ามีสีเหลืองเขียว มีกลิ่นหรืออาการคัน อาจเกิดจากการติดเชื้อ ควรพบแพทย์เพื่อรักษาอาการ

ปวดหน่วงบริเวณท้องน้อย

สามารถเกิดขึ้นได้จากการเกร็งตัวของมดลูก เป็นภาวะปกติของการตั้งครรภ์ แต่ถ้าหากมีการปวดหน่วงเกินกว่า 10 ครั้งใน 1 วัน หรือ 2-3 ครั้งต่อชั่วโมงติดต่อกัน อาจเป็นสัญญาณของการคลอดก่อนกำหนดได้ ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน

ปวดหัวตาพร่ามัว

ช่วงตั้งครรภ์เป็นเวลาที่ฮอร์โมนจะมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยมาก จึงเป็นปกติที่อาจมีอาการอ่อนเพลียและปวดหัว รวมไปถึงอาการเครียด แต่หากมีอาการปวดจนร้าวไปที่หน้าผากและขมับ รวมถึงตาพร่ามัวร่วมด้วย อาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะครรภ์เป็นพิษ จึงควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม

กระหายน้ำ และมีเหงื่อออกมาก

เนื่องจากของเหลวในร่างกายของคุณแม่ถูกแบ่งไปยังลูกในครรภ์ จึงส่งผลให้เกิดภาวะขาดน้ำและรู้สึกกระหายน้ำบ่อย ควรดื่มน้ำให้มากขึ้น แต่หากรู้สึกกระหายน้ำมากผิดปกติและมีเหงื่อออกมาก อาจเป็นสัญญาณของโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษา เพราะอาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้

อาการเหล่านี้เป็นเพียงบางอาการที่เกิดขึ้นเยอะกับคุณแม่ตั้งครรภ์ ยังมีอาการอื่น ๆ อีก เช่น กรดไหลย้อน ท้องอืด ท้องผูก หายใจขัด ปวดหลัง เป็นตะคริว ฯลฯ ซึ่งหากเกิดอาการผิดปกติใด ๆ ก็ตาม ควรมีการศึกษาเกี่ยวกับอาการเหล่านั้นและประเมินอาการเบื้องต้น ดูแลตัวเองให้ถูกวิธี แต่ถ้าไม่ดีขึ้นหรือเป็นมากกว่าเดิม ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้เร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ รวมถึงการฝากครรภ์และพบแพทย์ตามกำหนดเพื่อได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด และลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์

สำหรับลูกค้ากรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิตที่มีอาการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ และต้องการข้อมูลด้านสุขภาพที่เชื่อถือได้  ท่านสามารถตรวจเช็คอาการเบื้องต้นกับ Symptom Checker กับ Emma ผู้ช่วยตรวจสอบสุขภาพเบื้องต้น หรือท่านสามารถปรึกษาแพทย์ออนไลน์ได้กับบริการกรุงไทย-แอกซ่า เทเลเฮลท์ เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Emma by AXA และกดปุ่ม “TeleHealth” พร้อมยืนยันหมายเลขกรมธรรม์ในครั้งแรกที่ใช้ รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://www.krungthai-axa.co.th/th/telehealth

แหล่งที่มาของข้อมูล

·       งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
https://bit.ly/3EZDKPN

·       Mayo Clinic
https://mayocl.in/3kqLQYg

·       โรงพยาบาลเปาโล
https://bit.ly/3Ln7OHD

·       โรงพยาบาลพญาไท
https://bit.ly/3F6tQfy

·       โรงพยาบาลสมิติเวช
https://bit.ly/3OKPpXh

·       ศูนย์ศรีพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
https://sriphat.med.cmu.ac.th/th/knowledge-257

·       โรงพยาบาลรามคำแหง
https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/630