โกโก้ เครื่องดื่มสุดฮิตของชาวออฟฟิศ ถูกใจคนทุกวัย ทุกอาชีพ แม้แต่คนที่ลดน้ำหนัก ไม่เพียงแค่นั้น แถมมาพร้อมคุณประโยชน์มากมาย โดยโกโก้เป็นสิ่งที่หาซื้อง่ายได้ตามร้านค้าสะดวกซื้อ นอกจากราคาไม่แพงแล้ว แต่ยังสามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้ด้วย โดยวันนี้เราจะนำความรู้เกี่ยวกับโกโก้ทำมาจากอะไร มีประโยชน์อย่างไร ข้อเสีย และเมนูโกโก้เพื่อสุขภาพมาฝากกัน
โกโก้ทำมาจากอะไร
Cacao คือพืชพื้นเมือง โดยชื่อเก่าของโกโก้ชนิดนี้ คือ Kakaw โดยต้นคาเคาหรือต้นโกโก้เป็นต้นไม้ผลัดใบขนาดเล็กในวงศ์ชบา เป็นพืชพื้นเมืองในเขตร้อนชื้นของอเมริกาและอเมริกาใต้ โดยมีส่วนประกอบที่สำคัญ คือ เมล็ดโกโก้ ซึ่งมีรสชาติขม ภายในผลโกโก้จะมีเมล็ดประมาณ 20-26 เมล็ดต่อผล และนิยมนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
วิธีสกัดผงโกโก้
ผลโกโก้สุกจะมีสีแดง เหลือง โดยผ่าเอาเมล็ดโกโก้ออกมา หมักตากแดดคั่ว หรือให้ความร้อนให้สุก แล้วกะเทาะเปลือกหุ้มเมล็ดออก ก็จะได้เป็นส่วนด้านในของเมล็ดที่เป็นเนื้อโกโก้ ทีเรียกกว่า Cocoa Nib แล้วนําไปบดละเอียดก็จะได้เป็นของเหลวสีน้ำตาลเข้ม ที่เรียกว่า Cocoa Liquor/ Mass ซึ่งถือว่าเป็น Cocoa 100% แล้ว สกัดเอาไขมันโกโก้ออกด้วยเครื่องสกัดเย็นจะได้เป็น Cocoa Butter และกากที่เหลือจะได้เป็น Cocoa Powder ถ้าเติมน้ำตาลในระหว่างการบดแล้ว เทใส่พิมพ์ จะได้เป็น Chocolate ที่เรานิยมรับประทานในปัจจุบัน
โกโก้กับช็อคโกแลตต่างกันอย่างไร
บางคนอาจจะสงสัยว่าต่างกันอย่างไร โดยความแตกต่างระหว่างโกโก้กับช็อกโกแลต ถึงแม้จะผลิตจากเมล็ดคาเคาหรือต้นโกโก้ชนิดเดียวกัน แต่จะมีความแตกต่างอยู่ที่หลังจากได้ “Cocoa Liquor” ผงโกโก้จะนำมาสกัดเอาไขมันโกโก้ออก จึงทำให้มีรสขม แต่ผงช็อกโกแลตจะไม่สกัดไขมันโกโก้ออก หรือสกัดออกเพียงเล็กน้อย และยังเพิ่มวัตถุดิบก่อนนำไปตากแห้งและบดเป็นผง จึงมีรสขมที่น้อยแถมมีความหวาน แล้วก็ราคาที่สูงกว่า
คุณค่าทางโภชนาการของโกโก้
ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Department of Agriculture หรือ USDA) ระบุว่า ผงโกโก้ชนิดไม่หวานอุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุ เช่น
- แคลอรี: 49 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต: 12 กรัม
- ไฟเบอร์: 7 กรัม
- โปรตีน: 4 กรัม
- ไขมัน: 3 กรัม
ประโยชน์ของโกโก้
· มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดการอักเสบ ลดการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งพบว่าสารโพลีฟีนอลจะช่วยเสริมให้หลอดเลือดแข็งแรง มีส่วนช่วยเพิ่มไขมันคอเลสเตอรอลชนิด HDL นอกจากนี้ยังช่วยลดการก่อตัวของลิ่มเลือดได้
· ลดระดับความดันโลหิต การทานโกโก้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ช่วยลดความดันโลหิต ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ป้องกันเส้นเลือดอุดตันและป้องกันภาวะหลอดเลือดแดงแข็งตัว
· ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ เนื่องจากโกโก้อุดมไปด้วยแร่ธาตุ และวิตามินที่สำคัญต่อร่างกายมากมาย จึงช่วยบำรุงเลือด ทำให้เกิดการไหลเวียนโลหิตได้ดีขึ้น และเป็นการป้องกัน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูงอีกด้วย
· ในโกโก้และดาร์กช็อกโกแลตจะมีสารฟลาโวนอยด์ และโพลีฟีนอลในดาร์กช็อกโกแลต สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีหรือ LDL และเพิ่มคอเลสเตอรอลดีอย่าง HDL ในเลือดได้
· เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง โดยสารฟลาโวนอยด์ในโกโก้ มีฤทธิ์ช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ส่งผลให้ออกซิเจนและเลือดลำเลียงไปสู่สมองได้ดี จึงทำให้เราความจำดีขึ้นอีกด้วย
· การทานโกโก้จะส่งผลให้ระดับฮอร์โมนแห่งความเครียดลดลง
ข้อเสียของโกโก้
· มี Alkaloid ที่โครงสร้างคล้าย Caffeine แต่ฤทธิ์อ่อนกว่า สามารถกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ถ้าโดยถ้ารับประทานเป็นปริมาณมาก อาจเกิดอาการใจสั่น และนอนไม่หลับได้
· ถ้ารับประทานมาก ๆ จะเป็นสารเสพติด
· การรับประทานโกโก้แบบเติมนม เติมน้ำตาล ปริมาณมาก จะทำให้ระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดโรคอ้วนและโรคเบาหวานตามมา
โดยคนที่เป็นเบาหวานควรเลี่ยงการรับประทานโกโก้หรือช็อกโกแลตที่เติมน้ำตาล น้ำเชื่อม ขนมช็อกโกแลต โดยเลือกบริโภคช็อกโกแลตที่มีปริมาณไขมันต่ำ และงดน้ำตาล เช่น ผสมนมวัวไขมันต่ำ หรือนมจากธัญพืชชนิดต่าง ๆ เช่น นมอัลมอนด์ นมพิสตาชิโอ เพื่อลดปริมาณแคลอรีต่อวัน หรือใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล เช่น หญ้าหวาน แต่กลุ่มผู้ป่วยที่ควรระมัดระวังการรับประทานโกโก้หรือช็อกโกแลตที่มีปริมาณน้ำตาลสูง ได้แก่ ผู้ป่วยโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง
เมนูเพื่อสุขภาพจากโกโก้
บางคนก็สงสัยว่า ในเมื่อโกโก้ก็มีข้อเสีย เราจะทำอย่างไรให้ได้ประโยชน์จากมันสูงสุด วันนี้เรานำเมนูสุขภาพจากโกโก้ ที่มีประโยชน์ พร้อมทั้งช่วยลดน้ำหนักด้วยวัตถุดิบในการทำโกโก้อัลมอนด์มาฝากกันดังนี้
· ผงโกโก้ 2 ช้อนชา
· น้ำร้อน
· นมอัลมอนด์
· อัลมอนด์บด
เมนูสุดอร่อยนี้ ช่วยลดน้ำหนักได้ เนื่องจากไม่มีน้ำตาล และประกอบไปด้วยนมจากธัญพืช ที่มีปริมาณไขมันที่ต่ำ และเป็นไขมันจากพืชด้วย ซึ่งแก้วนี้มีแคลอรีเพียง 57 กิโลแคลอรีเท่านั้น ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ จึงจำเป็นที่เราต้องควบคุมการรับประทานให้พอดี ก็จะช่วยเสริมสร้างให้เรามีสุขภาพที่ดีและแข็งแรง หากเรามีความรู้ความเข้าใจในสิ่งนั้น สิ่งนั้นก็จะเกิดประโยชน์กับเราได้สูงสุด สำหรับลูกค้ากรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิตที่สนใจในการดูแลสุขภาพสามารถอ่านบทความด้านสุขภาพอื่น ๆ ได้ที่ https://www.krungthai-axa.co.th/th/health-advisories
แหล่งที่มาของข้อมูล
· โรงพยาบาลเมดพาร์ค
· HelloKhunmor
