ไม่มีข้อมูล

ค้นหาในทุกหมวด
*โปรดระบุคำค้นหา
02 ธันวาคม 2565

ข้อควรรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับการบริโภคกัญชา

ถึงแม้ว่ากัญชาจะเป็นชื่อที่คุ้นหูคนไทยมาอย่างยาวนาน แต่กระแสเรื่องกัญชาที่กำลังแพร่หลายอยู่ตอนนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ หลายคนก็อาจจะมีความรู้สึกอยากรู้อยากลอง แต่จริง ๆ แล้วกัญชานั้นเป็นประโยชน์หรือโทษกับร่างกายกันแน่ แล้วเราควรจะใช้กัญชาในรูปแบบใดบ้าง ก่อนที่จะลองอะไรเราก็ควรศึกษาหาความรู้ในเรื่องนั้น ๆ ให้เข้าใจเสียก่อน วันนี้เราจึงนำความรู้เรื่องกัญชามาฝากกัน

 

กัญชาคืออะไร

                  กัญชา คือ พืชล้มลุกชนิด Cannabis sativa L. ในวงศ์ Cannabaceae มีขนาดลำต้นสูงไม่เกิน 2 เมตร ลักษณะใบเป็นแฉกประมาณ 5 – 8 แฉก แต่ละแฉกมีรอยหยักละเอียดเข้าไปทางก้าน มีดอกสีเขียวช่อเล็ก ๆ ตามกิ่งก้านของต้น ใบและช่อดอกเพศเมียที่แห้งเรียกว่า กระหรี่กัญชา เดิมใช้ปนกับยาสูบและถูกจัดอยู่ในหมวดยาเสพติด ในทางการแพทย์จะนำสารสกัดของกัญชามาใช้ในการบำบัดอาการหรือรักษาโรค ซึ่งสารสกัดจากกัญชามีสารออกฤทธิ์ที่สำคัญอยู่ 2 ชนิด คือ

·       สารเตตร้าไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol) หรือสาร THC ออกฤทธิ์ในระบบประสาทส่วนกลางและสมองหลายแห่ง ลดอาการปวด กล้ามเนื้อเกร็ง หรืออาการคลื่นไส้

·       สารสารกลุ่มแคนนาบินอยด์ (Cannabidiol) หรือสาร CBD มีสรรพคุณช่วยลดความตื่นเต้นตกใจ ต้านอาการความจำเสื่อมหรือการเกิดโรคจิตประสาท หรือบางกรณีจะใช้เพื่อต้านฤทธิ์ของสาร THC

 

ปัจจุบันประเทศไทยมีการสกัดกัญชาเพื่อนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ยาทั้งหมด 4 รูปแบบ ได้แก่

·       น้ำมันกัญชา

·       ตำหรับยากัญชาแผนไทยตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข

·       น้ำมันกัญชาตำหรับหมอเดชาในโครงการวิจัยของกรมการแพทย์และแพทย์แผนไทย

·       ตำหรับยาที่ปรุงโดยแพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ และหมอพื้นบ้าน ซึ่งต้องผ่านการรับรองจากกรมการแพทย์แผนไทยและกรมการแพทย์ทางเลือก

 

กัญชากับการแพทย์

                  สารในกัญชาที่นำไปใช้ทางการแพทย์ส่วนใหญ่จะเป็นช่อดอก เพราะมีสารสำคัญที่สามารถนำไปสกัดเป็นยาได้มากกว่าส่วนอื่น ๆ โดยเลือกเก็บจากดอกกัญชาตัวเมียที่ไม่ได้ถูกผสม ซึ่งเป็นแหล่งสะสมสารสำคัญของกัญชาอย่าง THC และ CBD รวมถึงสารอื่น ๆ อีกกว่า 400 ชนิด ในปัจจุบันมีการศึกษาพบว่ากัญชามีสรรพคุณในการรักษาอาการหรือโรคบางชนิดได้ เช่น

·       บรรเทาอาการปวด ทั้งอาการปวดแบบฉับพลันและแบบเรื้อรัง

·       รักษาภาวะปวดประสาท

·       ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งที่เกิดจากโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง

·       รักษาโรคลมชักสำหรับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบอื่น

·       ภาวะคลื่นไส้อาเจียนในผู้ป่วยที่ได้รับเคมีบำบัด

·       รักษาภาวะเบื่ออาหารของผู้ป่วยโรคเอดส์ในบางกรณี

·       ช่วยประคับประคองอาการของผู้ป่วยระยะสุดท้าย

 

จากการศึกษาวิจัยยังมีการพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะนำกัญชาไปใช้รักษาหรือควบคุมอาการจากปัญหาสุขภาพบางอย่างในอนาคต เช่น

·       ภาวะสมองเสื่อม

·       โรคอัลไซเมอร์

·       โรคพากินสัน

·       โรควิตกกังวลทั่วไป

·       โรคนอนไม่หลับ

·       โรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ

 

อาการข้างเคียงและสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณแพ้กัญชา

              แม้กัญชาจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลายในทางการแพทย์ แต่สำหรับร่างกายของบางคนอาจเกิดการต่อต้าน เกิดอาการข้างเคียงหรือเกิดอาการแพ้กัญชาได้ ซึ่งเป็นไปได้ทั้งจากการบริโภคกัญชาเข้าไปแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจ ดังนั้นหากพบว่าคนใกล้ชิดมีอาการต่อไปนี้ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที

·       ง่วงนอนมาก และรู้สึกอารมณ์แปรปรวน

·       ปากแห้ง คอแห้ง กระหายน้ำ

·       เวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน

·       เหงื่อออกมากผิดปกติ ตัวสั่น

·       ไม่สามารถทรงตัวเวลาเดินได้

·       เริ่มพูดไม่ชัดหรือพูดไม่รู้เรื่อง

·       รู้สึกกระวนกระวาย วิตกกังวล หรือหวาดระแวงไม่มีสาเหตุ

·       หูแว่ว เห็นภาพหลอน พูดคนเดียว

·       หายใจไม่ค่อยสะดวก เจ็บหน้าอก

·       หัวใจเต้นเร็วและรัวผิดจังหวะ

·       เป็นลมหมดสติ

 

ใครบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงกัญชา

·       เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี

เพราะจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสมอง ทำให้มีพัฒนาการช้า เสี่ยงต่อการเป็นโรคจิตเภท ส่งผลต่ออารมณ์และสภาพจิตใจ และก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาว นอกจากนี้ เด็กยังมีโอกาสติดกัญชาได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่

·       สตรีมีครรภ์ อยู่ระหว่างให้นมบุตร หรือกำลังวางแผนที่จะตั้งครรภ์

เพราะกัญชามีผลเสียโดยตรงต่อพัฒนาการของเด็ก หากกำลังตั้งครรภ์เด็กมีโอกาสเสี่ยงที่จะคลอดออกมาไม่สมบูรณ์ อาจคลอดก่อนกำหนดหรือเสียชีวิตได้ หากอยู่ในระหว่างวางแผนตั้งครรภ์อาจทำให้เกิดภาวะท้องนอกมดลูกหรือไม่สามารถตั้งครรภ์ได้

·       ผู้ที่มีโรคประจำตัว

o   โรคเกี่ยวกับหัวใจ เพราะกัญชามีผลโดยตรงต่อการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ ทำให้ความดันโลหิตอาจสูงหรือต่ำผิดปกติ กล้ามเนื้อหัวใจตาย

o   โรคที่เกี่ยวกับตับและไต เพราะกัญชาส่งผลต่ออวัยวะส่วนนี้โดยตรง

o   โรคหลอดเลือดสมองอักเสบ

o   โรคความดันโลหิต

o   ผู้ที่ทานยาโรคประจำตัวบางชนิด เนื่องจากกัญชามีผลเปลี่ยนแปลงการขับออกของยาบางชนิดออกจากร่างกาย ซึ่งอาจทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ทั้งมากขึ้นหรือลดลง

·       ผู้สูงอายุ

เพราะกัญชาทำให้หัวใจเต้นเร็วและความดันโลหิตผิดปกติ จึงเสี่ยงทำให้ผู้สูงอายุหัวใจวายหรือเสียชีวิตกะทันหัน อาจส่งผลทางจิต ทำให้เกิดการทำร้ายตัวเองได้  และส่งผลต่อการทรงตัว ทำให้ผุ้สูงอายุหกล้มได้ง่าย

·       ผู้ใช้ยาละลายลิ่มเลือด (ยาวาร์ฟาริน)

เพราะกัญชาจะทำให้ยาออกฤทธิ์มากขึ้นหรือเพิ่มขนาดยา ทำให้เลือดแข็งตัวได้ลดลง และเลือดออกง่ายขึ้น

·       ผู้ที่มีประวัติแพ้กัญชา

·       ผู้ที่มีประวัติติดสารเสพติด รวมถึงนิโคตินและผู้ที่ดื่มสุราอย่างหนัก

 

วิธีบรรเทาอาการเมากัญชาเบื้องต้น

·       ดื่มน้ำเปล่าตามมาก ๆ อย่าปล่อยให้ขาดช่วงจนรู้สึกกระหายน้ำ

·       กินน้ำมะนาวประมาณครึ่งลูก ผสมกับเกลือหรือน้ำผึ้งหรือน้ำตาลเล็กน้อย หรือเคี้ยวพริกไทย หากเป็นเบาหวานให้ลดปริมาณน้ำผึ้งหรือน้ำตาลลง

·       ดื่มน้ำขิงหรือชาขิง 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร)

·       ชงรางจืด ดื่มวันละ 3 เวลา

 

ผลของการบริโภคกัญชา

ผลเสีย

·       เวียนหัวหมดสติ

·       ปากแห้ง ตาแห้ง

·       ง่วงซึม ตอบสนองช้า

·       ความดันโลหิตลดต่ำลง

·       อารมณ์แปรปรวน

·       มีปัญหาด้านการสื่อสารและการจดจ่อ

·       สูญเสียความทรงจำในช่วงสั้น ๆ

·       หวาดระแวง วิตกกังวล มีอาการซึมเศร้า

·       ส่งผลต่อพัฒนาการของสมอง ทำให้ระดับ IQ ลดลง

·       การรับรู้ต่าง ๆ ผิดปกติ

·       ทำให้ความสามารถในการขับขี่ยานพาหะนะลดลง เพราะส่งผลต่อการตัดสินใจและการตอบสนองต่าง ๆ เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

·       เสี่ยงต่อการเกิดการเสพติด

ผลดี

·       ช่วยคลายความกังวล การตื่นกลัว ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับได้ดีขึ้น

·       ช่วยให้รู้สึกอยากอาหารมากขึ้น

·       ในบางตำรับยาจะช่วยรักษาอาการเสียงสั่น อ่อนเพลีย ไม่มีแรงจากโรคไข้ผอมเหลือง ทำให้นอนไม่ค่อยหลับ จนร่างกายซีดผอม ตัวเหลือง ไม่มีแรง

·       บรรเทาอาการมือเท้าชาอ่อนแรง บรรเทาอาการปวดหรือชาตามเส้นต่าง ๆ

·       บางตำรับยาช่วยแก้อาการผื่นคัน ผื่นภูมิแพ้ แผลสะเก็ดเงิน อาการผิวหนังอักเสบและอาการของริดสีดวงทวาร

 

วิธีการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์

·       หยดน้ำมันกัญชาใต้ลิ้น

ซึ่งมีสรรพคุณทำให้นอนหลับได้สนิทขึ้น เจริญอาหารมากขึ้นและฟื้นฟูผู้ป่วยเรื้อรัง

·       นวดด้วยน้ำมันกัญชา

เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เช่น ปวดข้อ ปวดเข่า ปวดกล้ามเนื้อตามร่างกาย รวมไปถึงแก้อาการปวดศีรษะเรื้อรัง และรักษาไมเกรนได้ด้วย

 

ข้อควรระวังในการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์

·       ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์กัญชากับกลุ่มเปราะบาง

·       ควรเริ่มใช้ในปริมาณที่น้อยที่สุด หากยังไม่ได้ผลต้องค่อย ๆ เพิ่มปริมาณช้า ๆ

·       ควรเฝ้าดูแลอาการอย่างใกล้ชิดเมื่อใช้ครั้งแรก เพื่อเฝ้าระวังอาการผิดปกติ

·       ไม่ใช้ขณะขับขี่หรือทำงานกับเครื่องจาก หรืองานที่ต้องใช้สมาธิสูง ซึ่งโดยปกติแล้วภายใน 30 นาทีถึง 2 ชั่วโมงอาการเมาก็จะหายไป แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ด้วย เช่น ปริมาณและวิธีการที่กัญชาเข้าสู่ร่างกาย เป็นต้น

·       ศึกษาประโยชน์และโทษของกัญชาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนใช้

·       ควรได้รับการวินิจฉัยและแนะนำการใช้จากแพทย์

 

กัญชาเป็นพืชที่มีทั้งโทษมหันต์และประโยชน์อนันต์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิธีการและจุดประสงค์ที่จะนำไปใช้ ถึงแม้ในปัจจุบันกัญชาจะได้รับอนุญาตให้เป็นสมุนไพรที่ใช้ทางการแพทย์ได้อย่างถูกกฎหมาย แต่สิ่งสำคัญคือการศึกษาให้เข้าใจและก็ควรเลือกใช้ให้ตรงตามจุดประสงค์ ไม่ควรนึกสนุกหยิบยื่นกัญชาให้กับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเปราะบาง หรือแม้แต่ผู้ที่ไม่ได้บริโภคกัญชาด้วยความสมัครใจ เพราะเช่นนั้นแล้วสมุนไพรที่ว่ามีประโยชน์ก็อาจกลายเป็นยาพิษทำลายร่างกายได้

 

สำหรับลูกค้ากรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิต ที่สนใจในการดูแลสุขภาพสามารถอ่านบทความด้านสุขภาพอื่น ๆ ได้ที่ https://www.krungthai-axa.co.th/th/health-advisories

 

แหล่งที่มาของข้อมูล

·       โรงพยาบาลยันฮี
https://bit.ly/3BAx3V0

·       กรมการแพทย์
http://www.rajavithi.go.th/rj/wp-content/uploads/2019/09/Final_Guidance2.pdf

·       กระทรวงสาธารณสุข
https://bit.ly/3BBFgIm

·       คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล
https://bit.ly/3zssw4c

·       เว็บไซต์พบแพทย์
https://bit.ly/3bmkVfl

·       โรงพยาบาลศิครินทร์ กรุงเทพ
https://bit.ly/3zQvgK1

·       เว็บไซต์ AllWell
https://allwellhealthcare.com/cannabis-allergy/

 

บทความสุขภาพที่สำคัญ