ไม่มีข้อมูล

ค้นหาในทุกหมวด
*โปรดระบุคำค้นหา
06 พฤษภาคม 2566

แมวข่วน อย่านิ่งนอนใจ ต้องไปฉีดวันซีนพิษสุนัขบ้า

ขึ้นชื่อว่าทาสแมว เมื่อเห็นความน่ารักของเจ้าเหมียวก็มักจะอดใจไม่ไหว ต้องเข้าไปหยอกล้อเล่นกับน้อง ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าแมวเป็นสัตว์ที่เดานิสัยยาก ดังนั้นการจะเข้าไปเล่นกับพวกมันควรใช้ความระมัดระวัง ทั้งแมวที่เราเป็นเจ้าของเอง และแมวที่ไม่คุ้นเคยกัน เนื่องจากการถูกข่วนอาจเกิดขึ้นได้เสมอ และเรื่องราวอาจไม่จบแค่การทำแผล เพราะมีโอกาสจะเกิดการติดเชื้อพิษสุนัขบ้าได้ ดังนั้นเราจึงได้นำวิธีการดูแลตนเองเบื้องต้นเมื่อถูกแมวข่วนมาฝากกัน เพื่อให้ทุกคนสามารถปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้อง

 

โรคพิษสุนัขบ้า หนึ่งโรคเสี่ยงจากการโดนแมวข่วน

                  นอกจากโรคบาดทะยักที่ไม่ควรมองข้ามเมื่อเกิดแผลบนร่างกาย ยังมีโรคที่พิษสุนัขบ้า หรือโรคกลัวน้ำ ที่ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน ซึ่งโรคนี้เกิดจากการติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าจากน้ำลายโดยการโดนข่วนหรือเลียบริเวณแผลของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแล้วแพร่มาสู่มนุษย์ เช่น แมว สุนัข ค้างคาว ลิง ชะนี กระรอก หนู หรือแม้แต่ วัว ควาย ก็สามารถติดเชื้อพิษสุนัขบ้าได้เช่นกัน และในปัจจุบันที่มีความนิยมในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นน้องแมวหรือน้องหมา โดยเฉพาะทาสแมวควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะเพียงแค่เล่นกับน้องแมวและโดนแมวข่วนก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อพิษสุนัขบ้าได้แล้ว

 

อาการของโรคพิษสุนัขบ้า

                  หลังร่างกายได้รับเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า ผู้ป่วยจะแสดงอาการได้ตั้งแต่ 7 วันไปจนถึง 3 เดือน ในบางกรณีอาจใช้เวลานานหลายปีกว่าจะมีอาการ โดยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้

                  1. ระยะเริ่มต้น อาการจะมีความคล้ายคลึงกับโรคไข้หวัดใหญ่ มีไข้ ปวดศีรษะ ไม่สบายตัว และอาจรู้สึกคันและแสบร้อนในบริเวณที่ถูกสัตว์ข่วนหรือกัด

                  2. ระยะที่มีอาการทางสมอง เมื่อโรคพัฒนามาสู่ระยะที่รุนแรงขึ้น ผู้ป่วยจะเริ่มแสดงอาการที่บ่งถึงการทำงานที่ผิดปกติของสมอง อันเกิดจากเชื้อแพร่กระจายไปยังสมอง และเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น รู้สึกวุ่นวายใจ สับสน กระวนกระวาย กระสับกระส่าย หงุดหงิด

                  3. ระยะท้าย โรคจะทวีความรุนแรงในระยะท้าย จนทำให้ผู้ป่วยอยู่ในขั้นโคม่า และเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลว

 

วิธีดูแลตนเองเบื้องต้นเมื่อถูกแมวข่วน

                  อย่างแรกให้รีบล้างแผลด้วยน้ำสบู่และน้ำสะอาดทันที แล้วเช็ดแผลด้วยผ้าสะอาดให้แห้ง ตามด้วยการเช็ดแอลกอฮอล์ เบตาดีน หรือน้ำเกลือ จากนั้นให้รีบเดินทางไปพบแพทย์เพื่อรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และวัคซีนป้องกันบาดทะยัก โดยเฉพาะการถูกข่วนโดยแมวที่ข่วนแล้วหนี หรือแมวที่ไม่มีเจ้าของ

 

วิธีการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

              ง่ายที่สุดคือพยายามไม่ให้ถูกสัตว์ข่วนหรือกัด หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ที่ไม่รู้จัก สำหรับผู้ที่เป็นทาสหมา ทาสแมว แนะนำให้นำน้อง ๆ ที่เลี้ยงอยู่ไปฉีดวัคซีนตามกำหนดเวลาทุกปี นอกจากนี้ยังควรหมั่นดูแลสุขอนามัยของน้อง ไม่ว่าจะเป็นการตัดเล็บ อาบน้ำและทำความสะอาดที่นอนและบริเวณบ้านเป็นประจำ เพื่อป้องกันหมัด เห็บ และแมลง รวมถึงเมื่อพาน้องออกไปข้างนอกก็ควรใส่สายจูง เพื่อป้องกันไม่ให้น้องติดเชื้อพิษสุนัขบ้าจากการถูกกัดอีกด้วย

 

โรคพิษสุนัขบ้าไม่ได้เพียงแค่อันตรายต่อน้องแมวน้องหมา แต่ยังเป็นอันตรายต่อเจ้าของหรือคนที่มาเล่นกับน้องแมวน้องหมาอีกด้วย ดังนั้นเราจึงควรระมัดระวังโดยการปฏิบัติตามวิธีการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าที่ได้กล่าวไปข้างต้น เพื่อตัวคุณเองและสัตว์เลี้ยงที่คุณรัก สำหรับลูกค้ากรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิต ที่สนใจในการดูแลสุขภาพสามารถอ่านบทความด้านสุขภาพอื่น ๆ ได้ที่ https://www.krungthai-axa.co.th/th/health-advisories

 

แหล่งที่มาของข้อมูล

·       โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์
https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/579

·       โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
https://www.bumrungrad.com/th/conditions/rabies

·       โรงพยาบาลสมิติเวช
https://bit.ly/3F8LqzF

·       เว็บไซต์พบแพทย์
https://bit.ly/3BcSDhe

 

บทความสุขภาพที่สำคัญ