บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์การสูบบุหรี่ ที่มีหลากหลายรูปแบบและรสชาติที่เลือกได้ หลายคนมีความเชื่อว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าดีกว่าสูบบุหรี่ แต่ การสูบบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายกับร่างกายมากกว่าที่คิด เราจะพามารู้จักกับบุหรี่ไฟฟ้าให้มากขึ้นกัน
บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร
Electric Cigarette หรือที่รู้จักกันในชื่อ บุหรี่ไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์สูบบุหรี่ชนิดหนึ่งที่ใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ในการสร้างความร้อนเผาไหม้และไอน้ำจากน้ำยาที่มีส่วนผสมหลัก 4 อย่างได้แก่ นิโคติน โพรไพลีนไกลคอล กลีเซอรีน สารแต่งกลิ่นและรส ทำให้เมื่อสูบแล้วมีควันไอน้ำออกมา ต่างจากบุหรี่ธรรมดาที่ควันจะเกิดจากกระบวนการเผาไหม้ธรรมดาที่มีเขม่าควัน
อันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า
บุหรี่ไฟฟ้ามีสารประกอบมากมายที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพดังนี้
นิโคติน – นิโคตินมีคุณสมบัติในการกระตุ้นประสาทส่วนกลาง เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต ทำให้หัวใจเต้นเร็ว และเมื่อรับในปริมาณมากจะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอด มะเร็งหลอดอาหารและมะเร็งตับอ่อน นอกจากนั้นนิโคตินยังมีส่วนกระตุ้นให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นและเสพติดการสูบบุหรี่อีกด้วย
โพรไพลีนไกลคอล หรือสาร Glycerol/Glycerin เป็นสารเคมีที่ผสมลงไปในน้ำยา เมื่อสูดดมเข้าไปในปริมาณมากอาจจะเกิดการระคายเคืองที่ดวงตา ผิวหนังและปอด
สารปรุงแต่งรสชาติ – น้ำยาในบุหรี่ไฟฟ้าจะมีรสชาติ ความหอมหวานที่หลากหลาย ส่วนมากทำจากสารเคมีที่ใส่ในอาหารสำหรับการรับประทาน ซึ่งจะมีผลเสียเมื่อสารเคมีเหล่านี้เปลี่ยนเป็นรูปแบบควันแล้วเราสูดดมเข้าไป อาจจะส่งผลให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ ไอเรื้อรังและทำลายปอด
นอกจากนั้นยังมีพวกสารประกอบอื่น ๆ เช่น โลหะหนักในขดลวด สารหนู เบนซิน และอื่น ๆ ซึ่งสารทั้งหมดเหล่านี้เมื่อได้รับการสะสมในร่างกายเป็นเวลานาน มีโอกาสก่อให้เกิดโรคเส้นเลือดสมองตีบสูงขึ้น 71% โรคหัวใจวายเฉียบพลันสูงขึ้น 59% กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดสูงขึ้น 40% มีผลกระทบต่อสมอง และส่งผลให้เกิดปอดอักเสบรุนแรงจนกลายเป็นโรค EVALI (E-cigarette or Vaping Product Use Associated Lung Injury) หรือโรคปอดอักเสบรุนแรงจากบุหรี่ไฟฟ้า เป็นโรคปอดโรคใหม่ที่พบในผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งทางแพทย์สมาคมอเมริกามีสมมุติฐานว่าเกิดจากน้ำยา ที่มีสารปรุงแต่งกลิ่นหลายชนิด เมื่อสูดดมเข้าไปและสะสมปริมาณมากที่ปอด จะส่งผลให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น ไข้ หนาวสั่น ไอ หายใจสั้น เหนื่อยง่าย คล้ายกับการติดเชื้อไวรัส และมีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่นคลื่นไส้ ท้องเสีย อาเจียน
เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าเป็น EVALI จะต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล โดยเบื้องต้นแพทย์จะให้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ยาฆ่าเชื้อไวรัส หรือทั้งสองอย่าง ร่วมกับยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ เพื่อลดอาการอักเสบในปอด จนกว่าอาการจะดีขึ้น และกำชับผู้ป่วยไม่ให้กลับไปสูบบุหรี่ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่ธรรมดาหรือบุหรี่ไฟฟ้าอีก
บุหรี่ธรรมดา vs บุหรี่ไฟฟ้า อันไหนอันตรายกว่ากัน
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น หลาย ๆ คนเข้าใจว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดา เพราะคิดว่ามีแค่ไอน้ำและกลิ่นหอม ส่วนบุหรี่ธรรมดา มีน้ำมันดินและคาร์บอนมอนอกไซต์ นิโคตินสูง ควันที่มีกลิ่นจากการเผาไหม้ จึงทำให้หลายคนเกิดการเข้าใจผิด แต่ความจริงแล้วไอของบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายมากกว่า เนื่องจากมีขนาดอนุภาคเล็ก เมื่อสูดเข้าไปแล้วจะไปจับกับเนื้อเยื่อปอดและดูดซึมเข้ากระแสเลือดอย่างรวดเร็ว ร่างกายของเราจึงรับสารพิษได้ในทันที เสี่ยงต่อการเป็นโรคปอดได้เร็วกว่าทางที่ดีที่สุดคือหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ทุกประเภทเพื่อปกป้องสุขภาพของตนเองและคนที่คุณรัก
สำหรับลูกค้ากรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิต ที่สนใจในการดูแลสุขภาพสามารถอ่านบทความด้านสุขภาพอื่น ๆ ได้ที่ https://www.krungthai-axa.co.th/th/health-advisories
แหล่งที่มาของข้อมูล
· โรงพยาบาลวิภาวดี
https://bit.ly/3ISGKQK
· โรงพยาบาลกรุงเทพ
https://bit.ly/3IW6MTo
· สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
· ClevelandClinic
· มหาวิทยาลัยมหิดล
https://bit.ly/3Ww9Spf
