การดูแลสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคน การตรวจภายในก็เป็นหนึ่งในการดูแลสุขภาพสำหรับเพศหญิง เพื่อเป็นการป้องกันโรคหรืออาการไม่พึงประสงค์ เช่น มะเร็งปากมดลูก เนื้องอก เชื้อรา วันนี้เราจะมาแนะนำสัญญานเตือนต่าง ๆ ว่าเราควรไปตรวจภายในตอนไหนและมีวิธีการเตรียมตัวสำหรับการตรวจภายในอย่างไร วันนี้เราจะพามาทำความเข้าใจกัน
การตรวจภายในคืออะไร ตรวจอย่างไร
การตรวจภายใน (Pelvic Exam) เป็นการตรวจคัดกรองความผิดปกติของอวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานของผู้หญิง เช่น ช่องคลอด ปากมดลูก มดลูก ท่อนำไข่ รังไข่ กระเพาะปัสสาวะ และทวารหนัก โดยแพทย์จะทำการสอดนิ้วเข้าไปหนึ่งถึงสองนิ้วแล้วกดที่ท้องส่วนล่างด้วยมืออีกหนึ่งข้าง เพื่อคลำหาก้อนเนื้อ และตรวจดูรูปร่าง ขนาดและตำแหน่งของมดลูก นอกจากนั้นแพทย์จะทำการตรวจด้วยการใช้อุปกรณ์ที่คล้ายปากเป็ด หรือที่เรียกว่า Speculum เข้าไปเพื่อดูผนังช่องคลอด ปากมดลูก และเก็บเซลล์ตัวอย่างเพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในห้องแลปปฏิบัติการต่อไป โดยผลการตรวจจะออกภายในวันเดียวกัน หากตรวจมะเร็งปากมดลูกที่เข้าห้องปฏิบัติการ อาจจะต้องรอผลประมาณ 1 สัปดาห์ นอกจากนั้นอาจจะมีการตรวจเพิ่มเติมหากต้องการตรวจละเอียดมากขึ้น เช่น การตรวจทวารหนักด้วยนิ้วเพื่อตรวจหาความผิดปกติ และตรวจกระเพาะปัสสาวะด้วยการอัลตราซาวน์
สัญญาณที่บ่งบอกว่าควรไปตรวจภายใน
· มีตกขาวที่ผิดปกติ – ซึ่งปกติแล้วตกขาวจะมีสีขาวขุ่นหรือเป็นมูกใส ๆ มีกลิ่นจาง ๆ แต่ถ้ามีลักษณะที่ผิดปกติ เช่น มีกลิ่นเหม็น มีฟอง ตกขาวจับตัวเป็นก้อน มีสีที่ผิดปกติ เช่น สีเขียว สีชมพู สีแดง สีเหลือง หรือมีอาการคันบ่อยครั้ง ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยสาเหตุความผิดปกติ
· มีเลือดออกทางช่องคลอด – การมีเลือดออกผิดปกติบริเวณช่องคลอดในช่วงที่ไม่มีประจำเดือน เช่น มีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพ เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ปากมดลูกอักเสบ ช่องคลอดอักเสบ หรือเกิดภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก รวมถึงโรคร้ายแรงอย่างโรคมะเร็งระบบสืบพันธุ์อีกด้วย
· ปวดท้องน้อย – หากมีอาการปวดท้องน้อยที่ไม่ใช่สาเหตุจากการมีประจำเดือน อาการนี้บ่งบอกถึงความผิดปกติบางอย่าง ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการ
· แสบขัดบริเวณช่องคลอด ขณะปัสสาวะหรือมีเพศสัมพันธ์
· ประจำเดือนมาผิดปกติ – ไม่ว่าจะเป็นมาไม่ตรงกำหนดหรือมามากผิดปกติเกิน 7 วันขึ้นไป อาจจะเป็นสัญญาณเตือนโรคที่เกิดขึ้นกับมดลูก เช่น มะเร็งโพรงมดลูก ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนด ท้องนอกมดลูก
· พบก้อนเนื้อบริเวณท้องน้อย สามารถเช็กเบื้องต้นได้จากการลูบคลำบริเวณช่องท้องน้อย หากพบว่ามีก้อนนูนขึ้นมา ไม่ว่าจะแข็งหรือไม่ ขนาดเท่าไหร่ ควรเข้ารับการตรวจภายในเพื่อวินิจฉัย
· มีบุตรยาก
5 เหตุผลที่สาว ๆ ควรตรวจภายใน
หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าต้องรอให้มีอาการผิดปกติก่อน ค่อยเข้ารับการตรวจภายใน ซึ่งจริง ๆ แล้วตรวจภายในนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นประจำทุกปี เพื่อป้องกันและเข้ารับการรักษาโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้นและนี่คือ 5 เหตุผลที่สาว ๆ ควรเข้ารับการตรวจภายใน
1. ช่วยระบุโรค– การตรวจภายในจะช่วยตรวจหาโรคที่อาจเป็นอันตรายได้อย่างเช่น มะเร็งปากมดลูก ก้อนเนื้องอก มะเร็งรังไข่ เป็นต้น
2. ตรวจสอบอวัยวะภายใน – เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าอวัยวะภายในร่างกายของเราทำงานปกติหรือไม่ หากเข้ารับการตรวจภายในก็จะเป็นการเช็กการทำงานของอวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานว่ายังทำงานได้ดีอยู่เสมอ
3. ช่วยป้องกันโรคที่ไม่แสดงอาการ – เพราะโรคบางชนิดจะไม่แสดงอาการให้เห็น หากไม่ได้เข้ารับการตรวจภายในอย่างละเอียดโดยแพทย์ เช่น ซีสต์หรือเนื้องอก เพื่อป้องกันการลุกลามของโรคและทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที
4. ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาโรค – การเข้ารับการตรวจภายในไม่จำเป็นต้องรอให้มีอาการ การตรวจภายในเป็นการป้องกันการเกิดความผิดปกติเพราะถ้ามีอาการแล้วอาจต้องใช้เวลาในการรักษานาน มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ดังนั้นการเข้ารับการตรวจตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้ลดค่าใช้จ่ายและเป็นการดูแลสุขภาพตนเองไปพร้อม ๆ กัน
5. ป้องกันการแพร่เชื้อของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ – เพราะโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางโรคจะไม่แสดงอาการ เช่น ไวรัสตับอักเสบบี เริมหรือหนองในเทียม และโรคอื่น ๆ การเข้ารับการตรวจก็จะช่วยให้วินิจฉัยและป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เหล่านี้ได้
ข้อควรรู้ก่อนตรวจภายใน
· ควรนัดตรวจในช่วงที่ไม่มีประจำเดือน เพราะอาจจะทำให้ผลการตรวจคลาดเคลื่อนได้ ทางที่ดีควรเลือกตรวจในช่วงหลังหมดประจำเดือนไปแล้ว 1 สัปดาห์ หรือก่อนมีประจำเดือน 1 สัปดาห์
· ไม่ควรสวนล้างช่องคลอดหรือใช้ยาเหน็บทางช่องคลอดก่อนตรวจ ภายใน 48 ชั่วโมง
· หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ก่อนเข้ารับการตรวจ
· ควรสวมชุดที่สวมใส่สบาย เลือกกางเกงที่ง่ายต่อการถอด เพราะในโรงพยาบาลหรือคลินิกจะมีชุดผ้าถุงสำหรับการตรวจภายในไว้ให้เปลี่ยน เพื่อให้สะดวกต่อการตรวจของแพทย์
· สำหรับผู้ที่มีปัญหาตกขาว สามารถมาพบแพทย์ได้เลย ไม่จำเป็นต้องทำความสะอาด เพื่อให้แพทย์สามารถตรวจสอบและวินิจฉัยได้อย่างถูกต้อง
· ไม่จำเป็นต้องโกนขน
· ปัสสาวะให้เรียบร้อย ก่อนเข้าตรวจ
· หากเขินอาย หรือกลัว สามารถแจ้งพยาบาลหรือเจ้าหน้าที่เพื่อขอตรวจโดยแพทย์ผู้หญิงได้ โดยปกติแล้วหากเป็นแพทย์ผู้ชายจะมีพยาบาลผู้ช่วยเป็นผู้หญิงคอยช่วยเหลือภายในห้องตรวจด้วย
จะเห็นได้ว่าการตรวจภายในนั้นเป็นสิ่งที่สาว ๆ ทุกคนไม่ควรมองข้าม เพราะช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ รวมถึงช่วยป้องกันการแพร่เชื้อของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย สำหรับลูกค้ากรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิต ที่สนใจในการดูแลสุขภาพสามารถอ่านบทความด้านสุขภาพอื่น ๆ ได้ที่ https://www.krungthai-axa.co.th/th/health-advisories
แหล่งที่มาของข้อมูล
· โรงพยาบาลเมดพาร์ค
https://bit.ly/3vuTUR8
· โรงพยาบาลเปาโล
https://bit.ly/3PL2Lor
· คลินิกอินทัช เมดิคอลแคร์
https://bit.ly/3TBveOM
· โรงพยาบาลสินแพทย์
https://bit.ly/4cNmNbS
