“กินอิ่มแล้วง่วง” วลีเด็ดของหลาย ๆ คน ที่เมื่อพูดแล้ว ก็อาจจะโดนแซวกลับขำ ๆ ว่า “กินแล้วนอน จนอ้วนเป็นหมู” แต่รู้หรือไม่ว่าการกินแล้วนอนทันทีในระยะยาวนั้น เราอาจจะไม่ได้เป็นแค่โรคอ้วน แต่เป็นบ่อเกิดของสารพัดโรคแทน
โดยในบทความนี้เราจะมาชี้ให้เห็นถึงโทษของการกินแล้วนอน ว่าในระยะยาวสามารถก่อให้เกิดโรคอะไรได้บ้าง ? รวมถึงแนะนำพฤติกรรมการกินที่ดี เพื่อให้เราห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ
การกินแล้วนอนทันที มีผลเสียอย่างไรบ้าง ?
การกินแล้วจากนั้นนอนทันที หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า ร่างกายกำลังได้พักผ่อน เพราะรู้สึกสบายและผ่อนคลาย แต่จริง ๆ แล้ว พฤติกรรมนี้ส่งผลเสียต่อร่างกายมากกว่าที่เราคิด โดยเฉพาะระบบย่อยอาหารและการนอนหลับ เพราะการกินแล้วจากนั้นนอน จะทำให้ระบบย่อยอาหารของเราทำงานช้าลง จนเกิดอาการไม่สบายท้อง ท้องอืด และอาหารไม่ย่อย ส่งผลให้เรานอนหลับไม่สนิท ฝันร้าย พักผ่อนไม่เพียงพอ ตื่นมารู้สึกไม่สดชื่น แถมง่วงนอนในช่วงกลางวัน รวมถึงโหยหาอยากกินของหวานตลอดเวลา เพราะร่างกายผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ออกมาเป็นจำนวนมากนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงสูง ที่จะทำให้เป็นโรคกรดไหลย้อนอีกด้วย
โรคอันตรายที่แอบแฝงมากับการกินแล้วนอน
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการกินแล้วไปนอนที่แสนจะสุขสบายนั้น แท้จริงแล้วแฝงไปด้วยโรคอันตรายเอาไว้เพียบ และหากทำบ่อย ๆ จนติดเป็นนิสัย โรคอันตรายเหล่านี้ ก็อาจจะมาเยือนได้ในไม่ช้า
- โรคกรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease - GERD)
โรคยอดฮิต ติดอันดับ 1 ที่มากับการกินแล้วนอน แถมพฤติกรรมนี้ ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด กรดไหลย้อน โรคกระเพาะ ได้ถึง 2 เท่าอีกด้วย เพราะการกินแล้วไปนอนทันที จะทำให้หูรูดหลอดอาหารทำงานผิดปกติ และเกิดอาการกรดไหลย้อนได้ นอกจากนี้ท่านอนราบและนอนตะแคงขวา เพราะถุงเก็บอาหารในกระเพาะจะอยู่ทางด้านซ้าย หากนอนตะแคงซ้าย กระเพาะจะอยู่เหนือระดับกรด ยังทำให้กรดไหลย้อนขึ้นไปได้ง่าย ทำให้เกิดอาการแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ ลามขึ้นมาถึงหน้าอกและคอ จนรบกวนการนอนหลับได้
- โรคมะเร็งหลอดอาหาร (Esophageal cancer)
สำหรับใครที่เป็นโรคกรดไหลย้อน ก็อาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งหลอดอาหารได้ ซึ่งโรคนี้เป็นโรคที่เป็นผลต่อเนื่องมาจากโรคกรดไหลย้อน ที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี หรือผู้ป่วยอาจไม่ได้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ จนเกิดอาการโรคกรดไหลย้อนเรื้อรัง ที่หลอดอาหารเป็นแผล อักเสบ และตีบ จนร่างกายต้องปรับตัว โดยการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ ทดแทนเนื้อเยื่อที่ถูกกรดจากน้ำย่อยในกระเพาะอาหารทำลาย สุดท้ายพอเกิดการแบ่งเซลล์ขึ้นหลาย ๆ ครั้ง จนร่างกายไม่สามารถที่จะกำจัดเซลล์ที่ผิดปกติเป็นจำนวนมากเหล่านี้ได้ ก็จะกลายเป็นโรคมะเร็งหลอดอาหารในที่สุด
- โรคอ้วน (Obesity)
โดยปกติแล้วหากเราต้องการให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เราควรออกกำลังกายใช้แรง รวมถึงเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อมากกว่าปกติ ซึ่งในเวลาที่นอนหลับพักผ่อน อัตราการเผาผลาญพลังงานในร่างกายจะลดน้อยลง เพราะไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย และเมื่อเรากินแล้วนอนทันทีอาหารที่ถูกย่อยแล้ว แต่ไม่ได้ถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานเพื่อนำไปใช้ ก็จะเกิดการสะสมเป็นไขมันในร่างกาย จนน้ำหนักขึ้นพรวดพราด และอาจนำไปสู่การเป็นโรคอ้วน รวมถึงโรคต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับโรคอ้วนได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคไขมันในเลือดสูง เป็นต้น นอกจากนี้หากเรารับประทานอาหารในปริมาณที่มากจนเกินไป ก็สามารถส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับได้เช่นกัน
พฤติกรรมการกินที่ดีเป็นอย่างไร ?
อ่านมาจนถึงตรงนี้ เริ่มอยากปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นกันแล้ว ใช่ไหมคะ ? เรามีคำแนะนำดี ๆ ที่ทุกคนสามารถปฏิบัติตามได้ไม่ยาก ตามด้านล่างนี้เลย
1. ไม่นอนทันทีหลังรับประทานอาหาร ควรรอให้อาหารย่อยก่อนเข้านอนอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง
2. ไม่รับประทานอาหารในปริมาณที่มากจนเกินไปในแต่ละมื้อ ควรแบ่งมื้ออาหารให้เล็กลง แต่ถี่ขึ้น
3. รับประทานอาหารให้เป็นเวลา
4. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมต่อร่างกายของแต่ละคน
5. หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำระหว่างรับประทานอาหาร ควรทานเสร็จแล้วประมาณ 10 นาทีค่อยดื่ม เพื่อป้องกันไม่ให้มีปริมาณของเหลวในกระเพาะอาหารมากเกินไป ซึ่งเสี่ยงต่อกรดไหลย้อน
6. ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย โดยควรดื่มน้ำประมาณวันละ 2 ลิตร
7. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด และอาหารที่มีไขมันสูง
8. หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา ชา กาแฟ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนต่าง ๆ
9. เคี้ยวอาหารให้ละเอียด เพื่อช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
กินอิ่มแล้วนอนสบายในวันนี้ อาจนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพในวันข้างหน้า อย่ารอให้โรคภัยเข้ามาถามหา แล้วค่อยเริ่มดูแลตัวเอง หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนรู้เท่าทันถึง ผลเสียของการกินแล้วนอนกัน ฉะนั้นเรามาเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และดูแลตัวเองกันตั้งแต่วันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว
สำหรับใครที่มองหาบริการประกันสุขภาพ สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.krungthai-axa.co.th/th/products/health-insurance-and-hospital-income/ihealthy-ultra
แหล่งที่มาของข้อมูล
· โรงพยาบาลศิครินทร์ / Sikarin Hospital
· โรงพยาบาลเพชรเวช / Petcharavej Hospital
· โรงพยาบาลสมิติเวช / Samitivej Hospital
· รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ / Rattinan Medical Center
· หมอดี / MorDee
