ปัจจุบันข่าวอาชญากรรมและปัญหาสังคมต่างๆ เกิดขึ้นทุกวัน และดูเหมือนจะยิ่งทวีคูณความรุนแรงมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น คนตกงานขยายตัว และหลายคนอาจจะหาทางออกของปัญหาด้วยวิธีผิดๆ ซึ่งเราไม่มีทางรู้เลยว่าเหตุการณ์ร้ายแรงนี้จะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไหร่ วันนี้เราจึงจะขอชวนทุกคนมาลงทุนความปลอดภัยในชีวิต พร้อมวางแผนการเงินด้วย ‘ประกันชีวิต’ เพื่อรองรับความเสี่ยงด้านการเงินกัน

โดยก่อนที่เราจะไปลงทุนความปลอดภัยในชีวิตและวางแผนการเงินกันนั้น เราขอพาทุกคนไปดูความรุนแรงของอาชญากรรมในตอนนี้กันก่อน ว่าเพิ่มสูงขึ้นมามากเท่าไหร่ และอยู่รอบตัวเราขนาดไหน

อาชญากรรมเพิ่มสูงขึ้นมากเท่าไหร่

จากสถิติอาชญากรรม ปี 2566 ภาพรวมมีการเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ทั้งฆ่า พยายามฆ่า และข่มขืน โดยปี 2566 ประเทศไทยมีคดีที่เกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย และเพศ ที่มีการแจ้งความ 17,848 คดี และสามารถจับกุมได้ 16,678 คดี โดนมีจำนวนคนร้าย 22,045 คน

ส่วนคดีที่ก่อเหตุมากที่สุด คือ การทำร้ายร่างกาย 9,616 คดี รองลงมาคือ พยายามฆ่า 2,241 คดี ข่มขืน 1,885 คดี และฆ่าผู้อื่น 1,308 คดี

สำหรับคดีที่มีคนร้ายก่อเหตุมากที่สุด คือ คดีลักทรัพย์ 27,148 รองลงมา การฉ้อโกง (ไม่รวมคดีออนไลน์) 11,874 คดี ยักยอกทรัพย์ 6,218 คดี  

ซึ่งจากข้อมูลสถิติจะเห็นได้ว่าอาชญากรรมที่เพิ่มสูงขึ้นนั้น ล้วนเป็นอาชญากรรที่รุนแรง และมีโอกาสเกิดได้รอบตัวเราเสมอ ก่อนที่เราจะไปลงทุนความปลอดภัยในชีวิตและวางแผนการเงินกัน เราขอพาทุกคนไปดูสาเหตุความรุนแรงของอาชญากรรม เพื่อเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้มากขึ้นกันก่อน

สาเหตุที่อาจทำให้เกิดอาชญากรรมเพิ่มสูงขึ้น

ประเทศไทยกำลังเผชิญกบปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้การว่างงานสูงขึ้น โดยผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) เปิดเผย ผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร ในไตรมาส 1 ปี 2567 พบว่า มีจำนวนผู้ว่างงานประมาณ 4.1 แสนคน โดยกลุ่มผู้ที่เรียนจบในระดับอุดมศึกษา เป็นผู้ที่ว่างงานมากที่สุดในอัตรา 1.67 % รองลงมาคือ มัธยมศึกษาตอนปลาย 1.28 % จึงทำให้คนไทยหลายคนเกิดภาวะขาดแคลนรายได้

นอกจากนี้ ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำยังส่งผลให้ค่าครองชีพ อย่างค่าใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ เช่น ค่าอาหาร, ค่าเดินทาง, เสื้อผ้าและรองเท้า, กีฬาและสันทนาการ และค่าสาธารณูปโภค (ไม่รวมค่าเช่าที่อยู่อาศัย) ปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนีค่าครองชีพของไทยตอนนี้นับได้ว่าสูงเป็นอันดับที่ 5 จาก 9 ประเทศที่ถูกจัดอันดับ ซึ่งสูงกว่าฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ทำให้ผู้ประกอบการขายสินค้าเหล่านี้ได้ยากมากขึ้น

ซึ่งจาก 2 ปัจจัยนี้เองทำให้หลายคนเกิดความคนเครียด จนทำให้กลุ่มคนส่วนหนึ่งได้กลายเป็นอาชญากรจำเป็น ด้วยการก่ออาชญากรรมเพื่อมุ่งประสงค์ต่อทรัพย์สินมากขึ้น หรือในบางรายหันไปจัดการความเครียดด้วยการใช้เสพสารเสพติด ทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่งควบคุมสติตัวเองไม่ได้จนก่อเหตุอาชญากรรมขึ้นมาในที่สุดและได้ผันตัวเองเป็นผู้ขายควบคู่กันไปกลายเป็นเครือข่ายพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ไปโดยไม่ตั้งใจ จนทำให้ปัญหาอาชญากรรมใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ

จากสาเหตุที่อาจทำให้เกิดอาชญากรรมเพิ่มสูงขึ้นนั้น จะเห็นได้ว่าอาชญากรรมสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แม้แต่การที่เราอยู่ในบ้าน หรือแม้ว่าเราอาจจะไม่ได้โดนผลกระทบโดยตรง  ก็มีโอกาสเกิดอุบัติจากการได้รับลูกหลงจากสถานการณ์ต่างๆ ได้ เราจึงอยากชวนทุกคนมาลงทุนความปลอดภัยในชีวิตกัน

ลงทุนกับความปลอดภัยในชีวิต

●        กล้องวงจรปิด ปัจจุบันมีให้เราเลือกหลายแบบและไม่ได้ใช้บันทึกภาพเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวและส่งเสียเตือนได้ บางรุ่นยังสามารถพูดผ่านสมาร์ทโฟนแล้วเสียงออกที่กล้องวงจรปิดได้ สามารถควบคคุมทิศทางกล้อง และรับการแจ้งเตือนเมื่อกล้องพบเห็นการเคลื่อนไหวในสมาร์ทโฟนได้เลย

●        กลอนประตูดิจิทัล เป็นนวัตกรรมความปลอดภัยที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในคอนโดและบ้านสมัยใหม่ ซึ่งจุดเด่นของกลอนประตูดิจิทัลคือเราไม่จำเป็นต้องใช้กุญแจเปิดประตูอีกต่อไป เพียงกดรหัส ใช้คีย์การ์ที่บันทึกไว้ หรือแสกนลายนิ้วมือ ผู้ที่ได้รับอนุญาตก็สามารถเปิดประตูเข้าบ้านได้ และจะร้องเตือนทันทีเมื่อถูกงัดแงะ ทำให้เป็นนวัตกรรมความปลอดภัยที่ลงทุนเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังช่วยลดปัญหาเรื่องลืมกุญแจบ้านไป ให้เราได้ใช้ชีวิตง่ายขึ้นอีกด้วย

●        ระบบวิดีโอดอร์โฟน (Video Door Phone) หรือระบบอินเตอร์คอมแบบเห็นหน้า เป็นเทคโนโลยีกริ่งประตูยุคใหม่ที่ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมองเห็นใบหน้าของแขกที่มาเยือนได้โดยที่ยังไม่ต้องเปิดประตูบ้านหรือคอนโด หากเราไม่รู้จักคนที่กดกริ่งก็สามารถสอบถามจุดประสงค์การมาเยือนได้ผ่านลำโพงเสียง ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงที่อยู่บ้านคนเดียว และเรายังสามารถปฏิเสธการเปิดประตูบ้านผ่านระบบวิดีโอดอร์โฟนได้เลย

●        ระบบตรวจจับผู้บุกรุก เป็นระบบตรวจจับผู้บุกรุกที่รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนในปัจจุบันมีระบบตรวจจับที่สามารถแจ้งเตือนเจ้าของบ้านผ่านสมาร์ทโฟน หรือแจ้งถึงรปภ.ในโครงการบ้านและคอนโดได้เลย หรือแจ้งถึงศูนย์ควบคุมความปลอดภัยและตำรวจได้ทันที โดยระบบจะตรวจจับผู้บุกรุกโดยเซ็นเซอร์ ผ่านการตรวจจับการงัดแงะประตูหน้าต่าง และอาจใช้งานร่วมกับกล้องวงจรปิดด้วยได้ ซึ่งระบบนี้จะเตือนทันทีเมื่อประตูหรือหน้าต่างถูกเปิด

ซึ่งการลงทุนกับความปลอดภัยในชีวิตด้วยเทคโนโลยีนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยป้องกันเราได้ แต่หากเกิดเหตุร้ายขึ้นมาจริงๆ หรือเราเองได้รับผลกระทบกับสภาวะเศรษฐกิจ การวางแผนทางการเงินก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน

วางแผนการเงินด้วย ‘ประกันชีวิต’ เพื่อรองรับความเสี่ยง

●        ช่วยเสริมความมั่นคงทางการเงิน ประกันชีวิตเป็นการลงทุนที่ช่วยสร้างความความมั่นคงทางการเงินให้กับเราได้ หากวันไหนที่เราเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงจนบาดเจ็บ หรือเกิดรทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เราก็จะได้รับเงินค่ารักษาพยาบาล และได้รับเงินชดเชยตามเงื่อนไขของประกันชีวิตที่เราทำ

●        ช่วยเป็นแผนมรดกดูแลครอบครัว ประกันชีวิตสามารถนำมาใช้ในการวางแผนมรดกได้ หากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงกับเรา แล้วเราเกิดการเสียชีวิตขึ้นมา เพียงเรากำหนดชื่อผู้ได้รับผลประโยชน์ตอนทำประกันชีวิต บุคคลนั้นก็จะได้เงินส่วนนี้ไปใช้ดูแลตัวเองต่อไปโดยโดยที่ไม่ต้องเสียภาษีมรดกเลย และยังถือว่าเงินส่วนนี้ยังเป็นเงินเก็บที่ปลอดภัยในด้านการถูกขโมยทัพย์สินอีกด้วย

●        ช่วยลดหย่อนภาษี เบี้ยประกันชีวิตสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ สูงสุด 300,000 บาทต่อปี

อย่างไรก็ตาม การลงทุนกับความปลอดภัยในชีวิตที่เราแนะนำไปนั้นเป็นการลดความเสี่ยงภายในบ้านได้เท่านั้น แต่อันตรายกับชีวิตยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้ทุกที่เสมอ โดยเฉพาะในสถานการณ์เศรษฐกิจที่ตกต่ำตอนนี้ ดังนั้น การวางแผนวางแผนการเงินด้วย ‘ประกันชีวิต’ จึงอาจเป็นหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยรองรับความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่าย พร้อมสร้างความอุ่นใจให้ครอบครัวตอนนี้ได้