วัยรุ่นคือวัยเปลี่ยนผ่านจากวัยเด็กสู่วัยผู้ใหญ่ เด็กที่อยู่ในช่วงวัยนี้จะต้องรับมือการเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งในแง่การใช้ชีวิตและระบบฮอร์โมนต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้วัยรุ่นบางคนเกิดความเครียดสะสมขึ้นได้ คุณพ่อคุณแม่มีส่วนสำคัญอย่างมากที่จะช่วยดูแลและให้กำลังใจน้อง ๆ วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องวิธีการสังเกตสัญญาณต่าง ๆ และวิธีรับมือกับเรื่องนี้กัน
ความเครียดในเด็กช่วงวัยรุ่นเกิดจากอะไรได้บ้าง
- การเรียน เช่น การต้องเรียนในสิ่งที่ตัวเองไม่ถนัด ผลการเรียนไม่ดี และได้รับแรงกดดันจากความคาดหวังของคนในครอบครัว
- การพักผ่อนไม่เพียงพอ จากภาระการเรียนและการทำกิจกรรมต่าง ๆ
- การถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียน เช่น การถูกทำร้ายร่างกาย การถูกล้อเลียน การถูกนินทาและการถูกแบ่งแยกออกจากกลุ่ม
- ความสัมพันธ์กับเพื่อนและความรักในวัยเรียน
- ปัญหาสุขภาพเรื้อรัง ทำให้เด็กต้องหยุดเรียน และเรียนไม่ทันเพื่อน
- การรับข้อมูลข่าวสารมากเกินไป เพราะเด็กในวัยนี้ยังอยู่ในช่วงพัฒนาความสามารถด้านการวิเคราะห์และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ การรับข้อมูลมากเกินไปจะทำให้รู้สึกสับสน เครียดและตื่นตระหนกได้
- ความกังวลเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก เพราะวัยรุ่นอยู่ในวัยที่เริ่มใส่ใจภาพลักษณ์ของตัวเองทั้งรูปร่าง หน้าตา เป็นวัยที่อยู่ในช่วงการค้นหาอัตลักษณ์ของตนเอง จึงใส่ใจความเห็นของคนอื่นมากเป็นพิเศษ
- การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในชีวิต เช่น การย้ายโรงเรียน การสอบเข้ามหาวิทยาลัย
- การถูกทารุณกรรมทั้งทางร่างกายและจิตใจ
สัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าเด็กมีความเครียด
- มีอาการเศร้าซึม ขุ่นมัวต่อเนื่องกันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ขึ้นไป
- พยายามปลีกวิเวก หรือถอยห่างออกจากสังคม
- มีพฤติกรรมการทำร้ายตัวเองหรือพูดเกี่ยวกับการทำร้ายตัวเอง
- อารมณ์แปรปรวน ฉุนเฉียว หงุดหงิดง่าย บางครั้งก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้
- พฤติกรรมการกินเปลี่ยนไป เป็นได้ทั้งกินมากขึ้นหรือน้อยลงกว่าปกติ
- มีปัญหานอนไม่หลับ
- รู้สึกปวดหัวหรือปวดท้องบ่อย ๆ
- มีปัญหาด้านการเรียน และการใช้ชีวิตที่โรงเรียน บางครั้งอาจมีการโดดเรียนร่วมด้วย
วิธีการรับมือเมื่อลูกมีความเครียด
- เปิดใจรับฟังและทำความเข้าใจกับปัญหาที่ลูกกำลังเผชิญทั้งจากมุมมองของลูกและปัจจัยที่เกิดขึ้นในมุมมองทั่วไป อย่างไม่ตัดสินจากมุมมองและประสบการณ์ส่วนตัว
- ใช้วิธีการสื่อสารที่ส่งเสริมให้ลูกรับรู้ได้ถึงความรัก การยอมรับและมีพื้นที่ปลอดภัย สื่อสารในสิ่งที่ลูกควรทำแทนการห้าม เช่น “ปิดประตูเบา ๆ” แทน “อย่าปิดประตูเสียงดัง” หรือ “วางของเบา ๆ” แทน “อย่ากระแทกของเสียงดัง”
- ชื่นชมเมื่อลูกทำได้ดี และให้กำลังใจกับความพยายามของลูกถึงแม้ลูกจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย
- ใช้สติในการตอบสนองแทนการตอบโต้เมื่อลูกแสดงพฤติกรรมทางอารมณ์ เช่น ขึ้นเสียง โต้แย้ง เป็นต้น พ่อแม่ควรใจเย็นและสื่อสารกับลูกด้วยความรักและมีสติ เพราะทุกคำพูดและการกระทำของคุณพ่อคุณแม่ส่งผลอย่างมหาศาลกับสภาพจิตใจและบุคลิกของลูก
- สอนให้ลูกรักและเคารพตัวเอง เข้าใจธรรมชาติของความแตกต่างและการเปลี่ยนแปลง
- หากลูกมีปัญหาที่โรงเรียน คุณพ่อคุณแม่ควรเข้าปรึกษากับคุณครูเพื่อหาสาเหตุและหาทางแก้ไขร่วมกัน
ทำอย่างไรเมื่อลูกไม่ยอมเปิดใจ
แน่นอนว่าสำหรับวัยรุ่นบางคนคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่มาเปิดใจกับคุณพ่อคุณแม่ แต่เราสามารถค่อย ๆ ปรับตัวเพื่อให้ลูกรู้สึกสบายใจและเชื่อใจที่จะพูดเรื่องที่ไม่สบายใจกับเรา ซึ่งอาจจะใช้เวลาสักระยะทั้งนี้ขึ้นกับความพร้อมของลูกและพ่อแม่ โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถปรับตัวเข้าหาลูกได้ดังนี้
· ใช้เวลากับลูกให้มากขึ้น หากิจกรรมทำร่วมกับลูกหรือชวนลูกไปทำกิจกรรมใหม่ ๆ เช่น ไปเรียนทำขนม ไปฟังเพลงดนตรีสด ไปเรียนวาดภาพสีน้ำมัน เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อสร้างความคุ้นเคยและเป็นการสานสัมพันธ์กันในครอบครัว รวมถึงเรียนรู้ซึ่งกันและกันอีกด้วย
· เปิดโอกาสให้ลูกแสดงความคิดเห็นอยู่เสมอและไม่ตัดสินความคิดเห็นของลูก เริ่มต้นจากเรื่องง่าย ๆ เช่น การเข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียนหรือเลือกวิชาเรียน และเริ่มจากถามความคิดเห็นของลูกก่อนเสมอ ว่าลูกคิดอย่างไร แล้วจึงแนะนำทางเลือกอื่น ๆ ให้ลูกได้พิจารณาเลือกเอง
· เมื่อเกิดปัญหาขึ้น คุณพ่อคุณแม่ควรถามที่มาที่ไปจากลูกก่อน อย่าเพิ่งตัดสินจากสิ่งที่เห็นเพียงอย่างเดียว เพื่อทำให้ลูกรู้ว่าเราพร้อมที่จะคิดและแก้ไขปัญหาไปด้วยกัน
· ฝึกเริ่มบทสนทนากับลูก อาจจะเริ่มจากการแสดงความเป็นห่วง เช่น วันนี้ดูไม่สดใสเลย มีอะไรที่ไม่สบายใจหรือเปล่า หลังจากนั้นค่อยเพิ่มความหลากหลายของบทสนทนา โดยอาจจะคุยกันเรื่องที่ไวรัลในโซเชียลมีเดียหรือกิจกรรมที่ลูกชอบอย่างเช่น เรื่องฟุตบอล สไตล์การแต่งตัว เป็นต้น
วัยรุ่นก็คือต้นไม้ที่กำลังแตกกิ่งก้านสาขาไปเป็นต้นไม้ใหญ่ จะเติบโตได้อุดมสมบูรณ์แค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสารอาหาร แสงแดดและยารักษาโรคที่จะได้รับ เปรียบได้กับความรักความเข้าใจของคุณพ่อคุณแม่ก็คือสิ่งที่คอยประคองและส่งเสริมชีวิตของเด็ก ๆ ถ้าเด็กในวัยนี้ได้รับความรักและพื้นที่ปลอดภัยในการเติบโต วันหนึ่งพวกเขาก็จะเติบโตไปเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ร่มเย็นได้แน่นอน
การมีบทบาทเป็นพ่อแม่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเรามีอีกหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งชีวิตที่ต้องคอยดูแล รวมถึงมีเรื่องต่าง ๆ ที่ต้องทำให้ดีไปพร้อม ๆ กัน เช่น เรื่องงาน การเงิน งานบ้าน และบางครอบครัวก็อาจจะต้องดูแลญาติผู้ใหญ่ด้วย คุณพ่อคุณแม่จึงอาจมีความเครียดความเหนื่อยล้าปนกันไป ส่งผลให้มีอารมณ์หงุดหงิดหรือโกรธง่าย ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรระมัดระวังอย่างมากในการใช้อารมณ์ เพราะอาจจะมีีหลุดใช้อารมณ์กับลูกหรือคนรอบข้าง ดังนั้นหากมีความเครียดคุณพ่อคุณแม่ก็ควรรักษาสุขภาพจิตใจของตัวเองเช่นกัน และสำหรับลูกค้ากรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิตสามารถตรวจสุขภาพจิตใจออนไลน์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.krungthai-axa.co.th/th/MindHealth
แหล่งที่มาของข้อมูล
· Mayo Clinic
https://mayocl.in/3vPcbpo
· BDMS Wellness Clinic
https://bit.ly/3OZp0oO
· เว็บไซต์พบแพทย์
https://bit.ly/3vMuXhk
· โรงพยาบาลพญาไท
https://bit.ly/3x3dBMK
