ไม่มีข้อมูล

ค้นหาในทุกหมวด
*โปรดระบุคำค้นหา

นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้สมัคร

 

บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จํากัด (มหาชน) (“บริษัท”) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปของผู้สมัคร (“ท่าน”) ซึ่งรวมไปถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวด้วย เราจึงจัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้นเพื่ออธิบายวิธีการที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และโอนย้ายไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หลังจากนี้ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวจะเรียกว่า ข้อมูลส่วนบุคคล 

  • ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป หมายถึง ข้อมูลใดๆ ที่สามารถระบุตัวตนได้ ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม 
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลใดๆ ที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนดให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพหรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน ซึ่งก่อนจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยหรือโอนย้ายจะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลดังกล่าวก่อน  

ข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ใช้กับข้อมูลของท่านในการสมัครเข้าทำงานหรือฝึกงานและรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องของท่าน  
("บุคคลที่เกี่ยวข้อง”) เช่น บุคคลในครอบครัว บุคคลอ้างอิง 

1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม

1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป 

(ก) ข้อมูลติดต่อ (Contact Data) เช่น ชื่อ นามสกุล อีเมล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ 

(ข) ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน (Identification Information) เช่น วัน เดือน ปีเกิด เพศ อายุ หมายเลขประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง สถานภาพสมรส รูปถ่าย 

(ค) ข้อมูลทางการเงิน (Financial Information) เช่น เงินเดือน 

(ง) ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาและการทำงาน เช่น ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ความสามารถ และคุณสมบัติ ประวัติการเข้าร่วมฝึกอบรมในหลักสูตรต่างๆ 

(จ) ข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เช่น ข้อมูลสมาชิกในครอบครัว ข้อมูลบุคคลอ้างอิง และข้อมูลผู้ติดต่อในกรณีฉุกเฉิน 

1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว 

(ก) ข้อมูลตามสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน เช่น ศาสนา หมู่เลือด และข้อมูลเชื้อชาติ 

(ข) ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ความพิการ ผลการตรวจสอบสารเสพติด 

(ค) ประวัติอาชญากรรม 

2. บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งใด

บริษัทอาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านโดยตรงและจากแหล่งอื่น รวมไปถึง 

• หน่วยงานราชการ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 

• บุคคลอ้างอิงที่ท่านระบุในแบบฟอร์มสมัครงานของบริษัท 

• แหล่งข้อมูลสาธารณะอื่นๆ เช่น เว็บไซต์ของบริษัท เว็บไซต์สมัครงานอื่น ข้อมูลที่ค้นหาได้ทางอินเตอร์เน็ต หรือบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ  

3. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยและโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล

3.1 บริษัทเก็บรวบรวมใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและบุคคลที่เกี่ยวข้องตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

- วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อดำเนินการที่จำเป็นในการพิจารณาและคัดเลือกผู้สมัครงานในขั้นตอนต่างๆเช่นขั้นตอนการสมัครผ่านเว็บไซต์ของบริษัทการสมัครผ่านเว็บไซต์สมัครงานอื่นหรือสมัครผ่านทางบริษัทโดยตรงขั้นตอนการสัมภาษณ์ขั้นตอนการประเมินและคัดเลือกและขั้นตอนการเสนอสัญญาจ้างให้แก่ท่าน

- ฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

·    การดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

·    ความยินยอมโดยชัดแจ้ง

- วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อดำเนินการตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติของท่านก่อนการจ้างงานภายใต้ขอบเขตของกฎหมายรวมถึงการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมประวัติสุขภาพ

- ฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

·    การดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

·    ความยินยอมโดยชัดแจ้ง

- วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการภายในองค์กรเกี่ยวกับกระบวนการจ้างงานเช่นการส่งข้อมูลผู้สมัครหรือรายงานการสัมภาษณ์ให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องและผู้มีอำนาจตัดสินใจคัดเลือกกระบวนการภายในเพื่อจัดทำสัญญาจ้างรวมถึงกระบวนการบริหารงานบุคคลอื่นๆ

- ฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

·    การดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

·    ความยินยอมโดยชัดแจ้ง

- วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อพัฒนาและทดสอบระบบภายในบริษัท

- ฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

·    ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

·    ความยินยอมโดยชัดแจ้ง

3.2 การเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้อง 

โปรดแจ้งและขอความยินยอมจากบุคคลที่เกี่ยวข้องก่อนท่านจะเปิดเผยข้อมูลของบุคคลดังกล่าวแก่บริษัท 

- วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อตรวจสอบข้อมูลและประวัติการทำงานของท่านจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น บุคคลอ้างอิง เพื่อประกอบการพิจารณาการรับเข้าทำงานเท่านั้น

- ฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

·    ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

4. การใช้และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของท่านให้แก่บริษัทในกลุ่มแอกซ่าและบริษัทในเครือ และบุคคลภายนอก ดังต่อไปนี้ 

4.1 บริษัทในกลุ่ม และบริษัทในเครือ เพื่อการบริหารธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้อง  

4.2 ผู้รับและบริษัทในเครือ เพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุภายใต้นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เช่น 

1. หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจตามกฎหมาย เช่น ศาล ตำรวจ เป็นต้น 

2. ตัวแทน และหรือผู้ให้บริการ ในการดำเนินงานใด ๆ ของบริษัท เช่น ผู้ให้บริการเก็บและทำลายเอกสาร ผู้ให้บริการด้านสารสนเทศ เป็นต้น 

3. บุคคลภายนอกตามความยินยอมจากท่าน หรือตามข้อกำหนดของสัญญา หรือตามข้อกำหนดของกฎหมาย แล้วแต่กรณี 

บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกก็ต่อเมื่อบุคคลภายนอกนั้นตกลงที่จะรักษาความลับของข้อมูลอย่างเคร่งครัดและตกลงจะใช้ข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะตามที่บริษัทได้ให้ข้อมูลไปเท่านั้น 

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกอื่นใดอีก ในกรณีที่  

  • เป็นการปฎิบัติตามกฎหมาย หรือตามอำนาจของหน่วยงานกำกับดูแล หรือ 
  • มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าการเปิดเผยนั้นมีความจำเป็นต่อการป้องกันหรือตรวจสอบการกระทำความผิดทางอาญา รวมถึงการฉ้อโกง หรือมีความสำคัญกว่าประโยชน์สาธารณะ หรือ 
  • มีข้อยกเว้นภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้กระทำได้ 

กรณีที่ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลอยู่นอกประเทศไทย หรือ มีเทคโนโลยีเก็บข้อมูลอยู่นอกประเทศไทย เช่น ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์เก็บข้อมูลของบริษัท หรือประเทศอื่นใดที่ซึ่งบริษัทในกลุ่มแอ๊กซ่ากำหนดไว้ตั้งอยู่ ตามแต่กรณี กรณีที่มีการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศปลายทางที่ไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่ากับมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย บริษัทจะจัดให้มีมาตรการคุ้มครองที่เหมาะสมเพื่อทำให้แน่ใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครอง  

5. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ หากท่านไม่ประสบความสำเร็จในการประเมินต่างๆสำหรับตำแหน่งงานที่ท่านได้สมัครไว้บริษัทจะเก็บข้อมูลของท่านเป็นเวลา2ปีนับแต่ได้รับใบสมัครของท่าน

6. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล

ท่านมีสิทธิภายใต้บทบัญญัติของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ดังนี้  

1. การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล 

ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท อย่างไรก็ดี บริษัทอาจให้ท่านยืนยันตัวเป็นตนก่อนดำเนินตามคำขอเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน 

2. การขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง  

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลที่บริษัทมีอยู่นั้นไม่ถูกต้องหรือมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเอง เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด 

3. การลบข้อมูลส่วนบุคคล  

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ด้วยเหตุบางประการได้ เว้นแต่ว่าบริษัทจะมีฐานทางกฎหมายตามพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลานานขึ้น 

4. การระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล 

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลของท่านด้วยเหตุบางประการได้ 

5. การให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล 

ในกรณีที่บริษัทได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบริษัทได้ รวมทั้งมีสิทธิ ดังต่อไปนี้ 

1. ขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ 

2. ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้ 

6. การคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล 

ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยหรือโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเหตุบางประการ เช่น เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรงและกรณีอื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนด 

ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ 

อนึ่ง บริษัทอาจมีสิทธิปฏิเสธคำขอใช้สิทธิของท่านเนื่องด้วยเหตุผลบางประการ เช่น เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท อย่างไรก็ตาม บริษัทจะทำการตอบกลับคำขอใช้สิทธิของท่านทุกรณี และหากเป็นกรณีที่บริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามคำขอได้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการปฏิเสธและเหตุผลแห่งการปฏิเสธนั้น  

7. วิธีการติดต่อ

ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน การใช้สิทธิของท่าน หรือมีข้อร้องเรียนใด ๆ ท่านสามารถติดต่อบริษัทผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่งดังต่อไปนี้ 

บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จํากัด (มหาชน) 

สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 9 อาคาร จี ทาวเวอร์ แกรนด์ รามา 9 ชั้น 1, 22-27  

ถนน พระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง  

กรุงเทพมหานคร 10310 

ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์: โทร. 1159 เปิดให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง 

 

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 

สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 9 อาคาร จี ทาวเวอร์ แกรนด์ รามา 9 ชั้น 1, 22-27  

ถนน พระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง  

กรุงเทพมหานคร 10310 

อีเมล: dpo@krungthai-axa.co.th 

การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีการพิจารณาทบทวนและอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ตามความเหมาะสมอยู่เป็นระยะเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูล 
ส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครองอย่างเหมาะสม หากนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบผ่านทางการประกาศบนหน้าเว็บไซต์ของบริษัท การแจ้งเตือนบนอุปกรณ์ของท่าน หรือด้วยวิธีการอื่นๆ ที่เหมาะสม ทั้งนี้ ท่านสามารถเข้าเยี่ยมชมเพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับแก้ไขล่าสุดของบริษัทได้ 

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ 

ประกาศ ณ วันที่ 20/03/2566 

วันที่ปรับปรุงครั้งล่าสุด 20/03/2566