ไม่มีข้อมูล

ค้นหาในทุกหมวด
*โปรดระบุคำค้นหา
07 กรกฎาคม 2566

จริงหรือไม่? ที่ตำแหน่งสิวบนใบหน้าบอกโรคได้

                  เพราะสิวคือหนึ่งปัญหาผิวที่ลดทอนความสวย ความหล่อ รบกวนจิตใจ ทั้งยังส่งผลถึงเรื่องบุคลิกภาพ จึงไม่แปลกที่หลายคนจะพยายามค้นหาสารพัดวิธีเพื่อจัดการกับเจ้าสิวจอมกวนใจ แน่นอนว่าระหว่างทางอาจพบกับข้อมูลที่อาจสร้างข้อสงสัย หรือไม่แน่ใจในความถูกต้องกันบ้าง อย่าง “ตำแหน่งสิวบนใบหน้าสามารถบอกโรคได้หรือไม่” เป็นต้น สำหรับใครที่ต้องการคำตอบของคำถามนี้ เรามีเฉลยมาให้ทราบกัน พร้อมด้วยข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องสิว ๆ ที่จะเป็นประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อย

 

ตำแหน่งสิวบนใบหน้า บอกโรคได้จริงหรือไม่

          เชื่อว่าหลายคนเคยผ่านตากับบทความในอินเทอร์เน็ตที่ว่า ตำแหน่งสิวบนใบหน้าบอกโรคได้ ซึ่งอาจเป็นศาสตร์หรือเทคนิคของการแพทย์ในสมัยโบราณที่ส่งผ่านข้อมูลกันมา แต่หากถามในแง่ของการแพทย์สมัยใหม่ เรื่องนี้ยังไม่มีการยืนยันอย่างแน่นอนในปัจจุบัน เพียงแต่ใช้เป็นส่วนเสริมในการวิเคราะห์การเกิดสิวในเบื้องต้น

·       สิวบริเวณไรผม
มีความเป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมที่มีส่วนประกอบของสารเคมี ที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรืออุดตันรูขุมขน และเมื่อสัมผัสกับแบคทีเรีย ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดสิวในบริเวณดังกล่าวได้

·       สิวบริเวณแก้ม
สามารถตั้งข้อสังเกตได้ว่าสิวในบริเวณนี้อาจเกิดจากการปนเปื้อนเชื้ออีโคไล ที่ใบหน้ามีโอกาสสัมผัสจากของใช้ประจำวันอย่างปลอกหมอน โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

·       สิวที่คางและขากรรไกร
อาจเกิดได้จากทั้งภาวะฮอร์โมนแปรปรวน ระบบย่อยอาหารทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือการรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง ผลิตภัณฑ์เสริมฮอร์โมน ผลิตภัณฑ์จากนม รวมถึงอาหารแปรรูป

·       สิวบริเวณทีโซน
มีชุดความเชื่อที่นำมาวิเคราะห์สิวในบริเวณหน้าผาก จมูก และคาง ว่าเกิดขึ้นจากความเครียด แต่ในทางการแพทย์ยังไม่มีข้อมูลใดที่มาสนับสนุนความเชื่อนี้ แต่สิ่งที่งานวิจัยชิ้นหนึ่งสามารถชี้ให้เห็นได้คือ ความเครียดอาจเป็นตัวการให้สิวมีความรุนแรงขึ้นได้

 

ต้นตอการเกิดสิว

              เพราะสิวคือหนึ่งในปัญหาผิวที่สร้างความหนักใจให้หลายคน ฉะนั้นการเข้าใจต้นตอของปัญหาจึงเป็นสิ่งจำเป็น ทั้งในแง่การรักษา และการดูแลร่างกายให้ตรงจุดเพื่อไม่ให้เกิดสิวซ้ำซาก หรือในบางกรณีก็สามารถบอกลาสิวได้อย่างเด็ดขาด แค่เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การใช้ชีวิต การรักษา รวมถึงการดูแลสุขภาพในองค์รวม และเหล่านี้คือต้นตอของสิวที่ไม่ควรมองข้าม

-           เครื่องสำอาง เป็นสิ่งที่สามารถสังเกตได้ง่ายที่สุด สิวอาจเกิดจากส่วนผสมในเครื่องสำอางที่นำมาใช้ใหม่ เมื่อหยุดใช้ สิวอาจหายได้เอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

-           ฮอร์โมน เมื่อเกิดภาวะแปรปรวนของฮอร์โมน สามารถก่อให้เกิดสิวได้ 

-           ยา สิวอาจเกิดจากการใช้ยารักษาโรคบางชนิด เช่น ยาต้านโรคลมชัก ยารักษาวัณโรค ยาสเตียรอยด์

-           สุขอนามัย ไม่ว่าจะเป็นความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ การรับประทานอาหารรสจัด อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตหรือไขมันสูง หรือระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ ทั้งหมดล้วนเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้                  

-           กรรมพันธุ์ คนจำนวนไม่น้อยมีกรรมพันธุ์ในการเกิดสิว ข้อสังเกตคือเมื่อพยายามค้นหาต้นตอและรักษาในแง่มุมต่าง ๆ แล้วไม่ดีขึ้น เป็นไปได้ว่าสิวอาจเกิดจากพันธุกรรม

           

8 สารอาหารบำรุงผิว

            นอกจากการแก้สิวที่ต้นตอ อีกสิ่งที่สามารถเสริมให้ผิวดูดีและแข็งแรงขึ้นได้คือ การดูแลเรื่องโภชนการด้วยการเลือกสารอาหารบำรุงผิวมาเป็นส่วนหนึ่งของมื้ออาหาร หรือเสริมจากมื้ออาหาร

1.        โปรตีน สารที่เป็นองค์ประกอบหลักของผิวหนัง ช่วยสร้างความแข็งแรงและยืดหยุ่นให้ผิว พบมากในไก่ ไข่ อาหารทะเล นม ถั่ว ธัญพืช เป็นต้น

2.        วิตามินซี นับเป็นหนึ่งสารอาหารสำคัญในการดูแลผิวพรรณ เพราะมีส่วนช่วยในการผลิตคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่น และปกป้องเซลล์ผิวไม่ให้ถูกทำลาย พบมากในผลไม้ที่หลายคนชื่นชอบอย่างส้ม ฝรั่ง สับปะรด เป็นต้น

3.        วิตามินอีและสังกะสี โดยสารทั้งสองมีส่วนช่วยในการปกป้องผิวหนังชั้นนอกจากยูวี ซึ่งเราสามารถรับประโยชน์ได้ง่าย ๆ ด้วยการเลือกวัตถุดิบเหล่านี้มาประกอบอาหาร เช่น ไก่ ปู หอยนางรม ข้าวกล้อง ถั่ว งา น้ำมันรำข้าว

4.        วิตามินเอและเบต้าแคโรทีน มีส่วนช่วยในการเสริมสร้าง ซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ได้รับผลกระทบจากแสงแดด ทั้งยังต่อต้านการเกิดโรคมะเร็งผิวหนัง พบได้ในแคร์รอต ฟักทอง ผักโขม มะเขือเทศ ฝรั่ง แตงโม แคนตาลูป เป็นต้น

5.        สารต้านอนุมูลอิสระ ทำหน้าที่เสมือนเกราะผิว ช่วยต่อต้านมลภาวะต่าง ๆ และกำจัดของเสีย พบได้ในมะนาว ส้ม สตรอว์เบอร์รี มะละกอ แคร์รอต คะน้า ผักโขม ดอกกะหล่ำ บรอกโคลี เป็นต้น

6.        โอเมก้า-3 ตัวช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิวชั้นนอก ส่งผลให้ผิวสามารถเก็บกักความชุ่มชื้นได้ดียิ่งขึ้น พบมากในปลาทะเล ปลาทู สาหร่าย น้ำมันถั่วเหลือง เป็นต้น

7.        ซีลีเนียม ตัวช่วยในการปกป้องผิวจากแสงแดด พบมากในธัญพืชไม่ขัดสี ข้าวกล้อง ไข่ เนื้อแดง กุ้ง ปู เห็ด เป็นต้น

8.        โพลิฟีนอล อีกหนึ่งสารที่สามารถต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันความเสียหายและลดการอักเสบของเซลล์ผิว พบได้ในหลายแหล่ง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช ชา กาแฟ ช็อกโกเลต เครื่องเทศบางชนิด

 

จะเห็นได้ว่า สิวเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ แต่เราก็สามารถป้องกันได้เพียงแค่รักษาความสะอาดและบำรุงผิวอยู่เสมอ แต่ถ้าหากใครมีสิวขึ้นบ่อยครั้ง บริเวณเดิม ๆ และไม่หายสักที ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยสาเหตุที่แท้จริง สำหรับลูกค้ากรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิต ที่สนใจในการดูแลสุขภาพสามารถอ่านบทความด้านสุขภาพอื่น ๆ ได้ที่ https://www.krungthai-axa.co.th/th/health-advisories

 

แหล่งที่มาของข้อมูล

·       Chulalongkorn University
https://www.chula.ac.th/video/3316/

·       คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
https://bit.ly/3IOYxcu

·       โรงพยาบาลกรุงเทพ
https://bit.ly/3kkqAXZ

·       เว็บไซต์พบแพทย์
http://bit.ly/3KtKw59
http://bit.ly/41jSVOy

บทความสุขภาพที่สำคัญ