ในช่วงเวลาที่เรายังต้องเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และเผชิญกับฝุ่น PM2.5 เรื่องของการสังเกตความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจเป็นสิ่งที่ทุกคนตระหนักและให้ความสำคัญ ทั้งการตรวจหาสาเหตุของโรคและการรักษาโรคให้หาย โดยหนึ่งในโรคที่อาจพบได้บ่อยขึ้นในช่วงฤดูฝนคือโรคหลอดลมอักเสบ ซึ่งโรคนี้มีอาการไอแห้งเป็นสัญญาณเริ่มต้นสำคัญ ดังนั้นใครที่มีอาการดังกล่าวไม่ควรนิ่งนอนใจ เนื่องจากว่าคุณอาจกำลังป่วยเป็นโรคหลอดลมอักเสบอยู่ก็เป็นได้

รู้จักโรคหลอดลมอักเสบ

                  หลอดลมอักเสบ (Bronchitis) คือการอักเสบของเยื่อบุบริเวณหลอดลม ซึ่งส่งผลให้เยื่อบุหลอดลมเกิดอาการบวม เมื่อภาวะนี้เกิดขึ้น หลอดลมจะแคบลง อากาศหรือลมจึงไหลผ่านเข้าสู่ปอดได้ไม่ดี เป็นผลให้ผู้ป่วยเกิดอาการแตกต่างกันไปตามความรุนแรงของการอักเสบของเยื่อบุหลอดลม ส่วนใหญ่อาการนี้มักจะพบในช่วงฤดูฝน-ฤดูหนาว และพบได้ในทุก ๆ วัย โดยสิ่งที่ทุกคนควรให้ความสำคัญคือการเข้ารับการรักษา เพราะถ้าหากผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องแล้ว ก็อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ จนทำให้ป่วยเป็นโรคปอดอักเสบและโรคถุงลมโป่งพองได้

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดลมอักเสบ

                  โรคหลอดลมอักเสบเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ เช่น เชื้อไวรัสกลุ่มเดียวกับที่เป็นสาเหตุของโรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ เชื้อแบคทีเรีย ฝุ่นละออง มลพิษทางอากาศ สารเคมี การสูบบุหรี่ การได้รับควันบุหรี่ รวมไปถึงการระคายเคืองจากน้ำย่อยในผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนได้อีกด้วย นอกจากสาเหตุหลักของโรคแล้ว ยังมีปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงอื่น ๆ อีก เช่น การทำอาชีพที่มีโอกาสสัมผัสกับมลพิษอย่างวิศวกรหรือสถาปนิก การเดินทางไปเที่ยวในสถานที่แออัด การคลุกคลีกับผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ เป็นต้น

อาการของโรคหลอดลมอักเสบ

                  โดยทั่วไปอาการที่อาจบ่งบอกได้ว่าคุณกำลังป่วยเป็นโรคหลอดลมอักเสบ ได้แก่ มีไข้ต่ำจนไปถึงมีไข้สูง หนาวสั่น อ่อนเพลีย ไอแห้งไปจนถึงไอแบบมีเสมหะ หายใจไม่สะดวก รู้สึกแน่นบริเวณหน้าอก เหนื่อยง่ายขึ้น หายใจมีเสียงหวีด น้ำหนักลดลง เบื่ออาหาร เป็นต้น โดยอาการของโรคยังมีความแตกต่างกันตามชนิดอีกด้วย เช่น โรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน (Acute Bronchitis) ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายโรคหวัด ไอและมีเสมหะ ระยะการป่วยจะอยู่ในช่วง 1-3 สัปดาห์ แต่ถ้าป่วยเป็นโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง (Chronic Bronchitis) อาการของผู้ป่วยจะมีความรุนแรงมากกว่าชนิดเฉียบพลัน อาการไอจะหนักและกินเวลานานกว่า เสมหะมีความเหนียวข้นมากกว่า และเสมหะจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือสีเขียว บางรายมีอาการรุนแรงจนกระทบกับการใช้ชีวิตประจะวัน

วิธีป้องกันโรคหลอดลมอักเสบ

                  ส่วนหนึ่งของการป้องกันโรคหลอดลมอักเสบ คือการดูแลสุขภาพโดยรวมให้แข็งแรงเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในการต่อต้านโรค เช่น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ผ่อนคลายจิตใจเพื่อห่างไกลจากความเครียด เป็นต้น และที่สำคัญไม่แพ้กันคงเป็นการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น โดยเฉพาะในฤดูฝนที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อให้ทุกคนห่างไกลจากโรคหลอดลมอักเสบ

แม้ว่าอาการไออาจเกิดขึ้นได้ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงอย่างในฤดูฝนหรือฤดูหนาว แต่เราก็ควรหมั่นสังเกตอาการของทั้งตัวคุณเองและคนใกล้ชิด เพื่อค้นหาสาเหตุและสามารถเข้ารับการรักษาได้ทันถ่วงที สำหรับลูกค้ากรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิตสามารถปรึกษาแพทย์ออนไลน์ได้กับบริการกรุงไทย-แอกซ่า เทเลเฮลท์ เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Emma by AXA และกดปุ่ม “TeleHealth” พร้อมยืนยันหมายเลขกรมธรรม์ในครั้งแรกที่ใช้ รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://www.krungthai-axa.co.th/th/telehealth

แหล่งที่มาของข้อมูล

·       โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
https://bit.ly/43AezOT

·       งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/9070/

·       โรงพยาบาลเพชรเวช
https://bit.ly/43sdgSe

·       โรงพยาบาลนครธน
https://bit.ly/3MN2VcZ