ไม่มีข้อมูล

ค้นหาในทุกหมวด
*โปรดระบุคำค้นหา
10 กันยายน 2566

ต่อต้านสังคม ไม่เห็นใจผู้อื่น คืออาการของโรคไซโคพาธ (Psychopath) หรือไม่

 หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า ไซโคพาธ (Psychopath) มาบ้าง จากภาพยนตร์หรือซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวน ซึ่งตัวละครที่มีภาวะนี้ส่วนใหญ่มักมีลักษณะต่อต้านสังคม ไม่เห็นใจผู้อื่น ขาดความยับยั้งชั่งใจ แต่หากมองอีกมุมหนึ่งพวกเขาคือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงมาก่อน จนเป็นที่มาของการเป็นโรคบุคลิกภาพนี้ 

 

รู้จักโรคไซโคพาธ

                  ไซโคพาธ (psychopaths) จัดอยู่ในกลุ่มโรคบุคลิกภาพผิดปกติแบบต่อต้านสังคม (Antisocial Personality Disorder: ASPD) ที่มักเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ในวัยเด็ก โดยลักษณะของผู้ป่วยคือ เอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง ไม่เห็นอกเห็นใจผู้อื่น ขาดความสำนึกผิด ขาดความยับยั้งชั่งใจ ด้านชา ไม่เกรงกลัว ไม่รู้สึกผิดกับการกระทำของตนเอง โดยลักษณะดังกล่าวสามารถนำไปสู่การสร้างความรุนแรงต่อผู้อื่น ตั้งแต่คำพูดที่ทำร้ายจิตใจ การทะเลาะวิวาท ไปจนถึงการก่อเกิดอาชญากรรม

                 

สาเหตุของโรคไซโคพาธ

                  สาเหตุของโรคนี้สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ 1.สาเหตุทางกาย และ 2.สาเหตุทางจิตใจและสังคม สำหรับกลุ่มแรกนั้นเป็นสาเหตุที่เกิดจากพันธุกรรม เช่น มีความผิดปกติของสารเคมีในสมอง มีความผิดปกติของสมองส่วนหน้า (Prefrontal Cortex) หรือสมองส่วนอะมิกดะลา (Amygdala) รวมถึงการประสบอุบัติเหตุที่ส่งผลกระทบต่อสมอง

                  ส่วนกลุ่มที่ 2 อาจเกิดจากการสัมผัสประสบการณ์ไม่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยเด็ก เช่น ถูกทอดทิ้ง ถูกละเลยเพิกเฉย ถูกทารุณกรรมทางร่างกายหรือจิตใจ พ่อแม่หย่าร้างทำให้เด็กขาดความอบอุ่น หรืออาศัยอยู่ในครอบครัวหรือสังคมที่โหดร้าย นอกจากนี้ยังอาจเป็นผลพวงจากการป่วยเป็นโรคทางจิตเวช เช่น สมาธิสั้น (ADHD) พฤติกรรมเกเรรุนแรง (Conduct Disorder)

 

อาการของโรคไซโคพาธ

                  ผู้ป่วยโรคไซโคพาธแต่ละคนจะมีอาการแตกต่างกันไป เช่น จิตใจแข็งกระด้าง เย็นชา ตอบสนองความต้องการของตนเองโดยไม่สนใจผู้อื่น มีปัญหาในความสัมพันธ์รูปแบบต่าง ๆ มีความผิดปกติทางอารมณ์และความคิดโดยเฉพาะเมื่อต้องเข้าสังคม ไม่สามารถแยกแยะถูกหรือผิด โกหก หลงตัวเอง เห็นแก่ตัว เสพติดอันตรายหรือความตื่นเต้น ใช้สารเสพติด ใช้ความรุนแรงซ้ำ จนไปถึงก่ออาชญากรรม

 

แนวทางการรักษาโรคไซโคพาธ

เนื่องจากไซโคพาธเป็นโรคที่ผู้ป่วยมีอาการและรายละเอียดเฉพาะบุคคล การรักษาจึงมีหลากหลายวิธีการ

·       การใช้ยา กรณีที่ผู้ป่วยมีอาการป่วยอื่นร่วมกับไซโคพาธ การรักษาด้วยยาจะเป็นประโยชน์กับโรคนั้น ๆ และมีส่วนช่วยให้อาการไซโคพาธดีขึ้นได้ เช่น ยารักษาโรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า ยาต้านเศร้าในกลุ่ม SSRI ยาต้านอาการทางจิต ยากันชัก

·       การปรับพฤติกรรม มีส่วนช่วยให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตในสังคมได้ดีขึ้น เช่น การจัดการความเครียด การพัฒนาความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง การฝึกความเห็นอกเห็นใจ การพัฒนาสิ่งที่สนใจในแง่ดี

·       จิตบำบัด จิตแพทย์และนักจิตบำบัดจะทำการวิเคราะห์ถึงสาเหตุแห่งพฤติกรรม ก่อนจะเลือกการบำบัดให้เหมาะสม เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่น และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เช่น การปรับความคิดและพฤติกรรม การบำบัดแบบแผนความคิด การบำบัดการใช้สารเสพติด

 

ซึ่งผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาที่ถูกวิธี เพื่อที่จะได้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งเราควรหมั่นสังเกตคนรอบตัว โดยจะเห็นได้ว่าส่วนหนึ่งไซโคพาธสามารถเกิดจากพันธุกรรมได้แต่สภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดูของครอบครัว ก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

สำหรับลูกค้ากรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิตสามารถตรวจสุขภาพจิตใจออนไลน์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.krungthai-axa.co.th/th/MindHealth

 

แหล่งที่มาของข้อมูล

·       กรมสุขภาพจิต
http://bitly.ws/CPGy
http://bitly.ws/CRJm

·       BBC
http://bitly.ws/CPGF

·       โรงพยาบาลเพชรเวช
http://bitly.ws/CRJ7

·       กระทรวงสาธารณะสุข
http://bitly.ws/CRJa

·       Pobpad

http://bitly.ws/CRJK

บทความสุขภาพที่สำคัญ